ทันหุ้น-BLA เผยจำนวนลูกค้า 3 เดือนแรกโตบวก ส่วนเบี้ยอาจเทียบช่วงเดียวกันปีก่อนไม่ได้เพราะมีการปรับแผนการขายใหม่มาเน้นสินค้าคุ้มครองที่ชำระเบี้ยน้อยกว่าแบบสะสมทรัพย์ จับตาเปิดตัวสินค้ายูนิตลิงก์ พ.ค.นี้ มีโอกาสทำผลงานครึ่งปีหลังแรง เพิ่มโอกาสโตผ่านพันธมิตร แบงก์ โบรกเกอร์ และตัวแทน

ม.ล.จิรเศรษฐ ศุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA กล่าวว่า สถานการณ์ธุรกิจของ BLA เฉพาะเดือนมีนาคมสามารถเติบโตได้ดี สะท้อนจากจำนวนรายที่เป็นลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้จะมองว่าเป็นการเติบโตจากสถานการณ์ที่ไม่ปรกติเพราะโควิด-19 ระบาดอย่างหนักในช่วงมีนาคมปีที่ผ่านมาจนนำไปสู่การล็อกดาวน์เมือง แต่ผลงานในช่วง 2 เดือนแรก ปีนี้ (มกราคม-กุมพาพันธ์) BLA ก็ยังเติบโตได้ด้วยตัวเลขที่เป็นบวก

“ถ้าเทียบเป็นตัวเบี้ยอาจได้ตัวเลขไม่มาก เนื่องจากปีที่ผ่านมาของช่วงนี้เรายังขายแบบประกันที่ชำระค่าเบี้ยสูง แต่ช่วงเดียวกันในปี2564 เราไม่ได้ขายสินค้าแบบนั้นแล้ว โดยหันมานเน้นสินค้าคุ้มครองแทน ซึ่งมีการชำระเบี้ยที่ถูกกว่าอย่างไรก็ตามถ้าเทียบจำนวนรายแล้วมีการเติบโตที่เป็นบวก”

จับตาแรงขับเคลื่อนQ3/64

ม.ล.จิรเศรษฐ คาดว่าตั้งแต่ไตมาส 3/2564 BLAน่าจะมีการเติบโตที่ชัดเจนมาขึ้นจากการออกผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิต ลิงก์) ซึ่งจะเริ่มเสนอขายในเดือนพฤษภาคมปีนี้ โดยจะเน้นขายผ่านตัวแทนหรือที่ปรึกษาการเงินที่มีใบอนุญาตInvestment Consultant (IC) License หรือ ทั่วไปรู้จักในชื่อ Single License และทั้งปี 2564 ตั้งเป้าหมายการเติบโตด้วยตัวเลขสองหลัก

ช่องทางแบงก์ขยับขึ้น

ม.ล.จิรเศรษฐ เล่าต่อไปว่า ในปี 2563 ที่ผ่านมา เห็นการเติบโตที่ชัดขึ้นในช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ โดยเฉพาะพันธมิตรทางธุรกิจอย่างธนาคารกรุงเทพ หรือ BBLที่สามารถปรับแผนเพื่อรองรับการขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยในหลายรูปแบบได้มากขึ้น

“ในอดีตเราจะเห็นแบงก์เน้นขายแต่แผนสะสมทรัพย์ พอปรับมาเน้นแผนคุ้มครอง ทำให้แบงก์ต้องปรับตัว ปรับทักษะความรู้กับสินค้าประกันในกลุ่มใหม่ ซึ่งก็ต้องใช้เวลา แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งที่ทำความเข้าใจได้ ทุกอย่างก็จะวิ่งได้เร็ว เช่นในปีที่ผ่านมา ช่องทางแบงก์สามารถกลับมาขยายตัวได้อย่างดี แต่กะนั้นไม่หวือหว่าเหมือนกับ 3 ปีก่อน ที่ยังไม่มีมาร์เก็ตคอนดักท์”

ปรับพอร์ตเพิ่มงานจากตัวแทน

ทั้งนี้ แบงก์แอสชัวรันส์เคยทำเบี้ยให้กับ BLA ด้วยสัดส่วนสูงถึง 80% โดยอีก 10% มาจากตัวแทน และช่องทาง

อื่นๆ เช่น ออนไลน์ เทเลไดเร็ค โบรกเกอร์ ที่ 10% ซึ่ง BLA มีแผนในการปรับพอร์ตงานใหม่ โดยเพิ่มสัดส่วนของตัวแทนเป็น 40% ช่องทางอื่นๆ 20% และ แบงก์แอสชัวรันส์ 40% ซึ่ง ม.ล.จิรเศรษฐ ไม่ได้หมายความว่าเบี้ยในช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์จะลดลงแต่เป็นการเพิ่มสัดส่วนการทำเบี้ยในช่องทางอื่นๆมากขึ้น

“โดยเฉพาะช่องทางโบรกเกอร์ หรือนายหน้า และช่องทางออนไลน์ เราเห็นสัญญาณการเติบโตที่สูงมาก จากเบี้ยของประกันชีวิตที่มีไม่ถึง 10 ล้านบาท ปัจจุบันสามารถทำเบี้ยได้ในหลัก 100-150 ล้านบาท และเรายังเริ่มเห็นสัญญาณที่โบรกเกอร์รายใหญ่ๆเริ่มเข้ามาเล่นในตลาดประกันชีวิตมากขึ้น จากที่ผ่านมาจะเน้นขายประกันวินาศภัยโดยเฉพาะประกันรถเป็นหลัก”

เพิ่มพันธมิตรธุรกิจ

ซึ่งในส่วนของ BLA ก็มีแผนในการเพิ่มพันธมิตรทางธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะโบรกเกอร์ ที่เริ่มขยับเข้ามาตลาดประกันชีวิตมากขึ้น ขณะเดียวกันแบงก์แอสชันรันส์ก็ไม่ได้ทิ้งไป นอกจากเป็นพันธมิตรกับ BBL แล้วยังผูกมิตรไว้กับ TISCO อีกด้วย โดยอนาคตมีแผนจะเพิ่มพันธมิตรทางแบงก์อีก แต่ต้องเป็นไปตามขั้นตอน เพราะการเป็นพันธมิตรจะมีระยะเวลาของสัญญา ซึ่งเมื่อครบกำหนด ทาง BLA ก็จะเข้าไปแข่ง Bid หรือประมูลราคา

ขับเคลื่อนพลังตัวแทน

อีกหนึ่งช่องทางหลักที่จะสร้างการเติบโตให้กับ BLA คือ ตัวแทน ที่ BLA เน้นสร้างกองกำลังแบบ เต็มเวลา (Full time) ที่สามารถให้บริการและดูแลลูกค้าได้มากกว่าพาร์ทไทม์ (Part time) พร้อมกับเพิ่มทักษะความรู้เพื่ออัพเกรดสู่ที่ปรึกษาการเงินที่มีความรู้ด้านการลงทุนด้วย ผ่านโครงการ กรุงเทพประกันชีวิต สมาร์ท ลีดเดอร์ (Bangkok Life Smart Leader) ซึ่งแบ่งทักษะออกเป็น 3 ระดับ Smart Agent (SA)ที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของอาชีพตัวแทนก็ว่าได้ ที่จะได้รับการติดอาวุธ ทักษาะให้ประสบความสำเร็จในอาชีพ

ระดับSmart FA (SFA) สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องการเงินการลงทุน การวางแผนการเงินหรือเป็นตัวแทนประกันชีวิต มุ่งมั่นสู่การเป็นที่ปรึกษาทางการเงินแบบมืออาชีพ และ ระดับSmart Leader (SL) สำหรับผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จในการสร้างทีมงานขายเพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืน มุ่งสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจด้วยตนเอง โดยจุดเด่นของโครงการนี้คือเป็นโครงการพัฒนาผู้บริหารรุ่นใหม่แห่งเดียวที่มีแผนรับรองรายได้ที่แน่นอนตลอดระยะเวลาโครงการ 12 เดือน