ทันหุ้น - บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุ วานนี้ (1 เม.ย. 2564) BPP ได้มีการแจ้งข่าวการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ โดยได้มีการลงนามในสัญญาลงทุนในบริษัท Nakoso IGCC Management (NIMCO) ผ่านบริษัทลูกในสัดส่วน 33.5% มูลค่า 800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดย NIMCO ถือหุ้นร้อยละ 40% ในโรงไฟฟ้า Nakoso Integrated Gasification Combined Cycle (IGCC) ขนาด 543.0MW ในจังหวัด Fukushima ประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้ BPP ได้รับกำลังผลิตเพิ่มเติม 72.8MWe

โรงไฟฟ้า Nakoso IGCC เป็นการร่วมทุนระหว่าง 5 บริษัทและมีบริษัทในเครือ Mitsubishi เป็นหุ้นส่วนสำคัญ เนื่องจากเป็นผู้พัฒนาหลักของเทคโนโลยี IGCC

IGCC เป็นเทคโนโลยีใหม่สำหรับโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง แตกต่างจากเทคโนโลยีเดิมจากการที่เป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีการแปลงสถานะของถ่านหินให้เป็นก๊าซ (Gasification) และเทคโนโลยีโรงไฟฟ้า Gas Fired Combined Cycle Plant ซึ่งส่งผลให้มีประสิทธิภาพสูงและปลดปล่อยมลภาวะในระดับต่ำ (HELE) 

Nakoso IGCC มีกำหนด COD ในช่วงกลางเดือน เม.ย. 64 ในขณะที่การโอนสัดส่วนความเป็นเจ้าของจะเสร็จสิ้นในเดือน พ.ค.

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยมีมุมมอง การลงทุนในโรงไฟฟ้าดังกล่าวเป็นไปตามแผนในการเพิ่มกำลังผลิตของบริษัทฯซึ่งมีเป้าหมายอยู่ที่ 5.3GWe ภายในปี 2568 รวมถึงสอดคล้องกับความพยายามในการลด Carbon Footprint ของบริษัทฯ โดยเทคโนโลยี IGCC จะสามารถลดการปลดปล่อย CO2  ได้ราว 15% ของระบบเดิม

เบื้องต้นคาดการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า Nakoso IGCC จะสร้างกำไรเพิ่มเติมให้กับ BPP ได้ 220 ล้านบาทต่อปี (เริ่มรับรู้ในเดือน พ.ค. 64) ส่งผลให้มี Upside ต่อประมาณการปี 2564 ของเราราว +3.8% และ Upside ต่อมูลค่าพื้นฐาน ณ สิ้นปี 2564 0.30-0.40 บาท

ทั้งนี้ มองว่าการลงทุนดังกล่าวเป็นการเปิดโอกาสให้กับ BPP ในการทำธุรกิจกับเครือ Mitsubishi ซึ่งเป็นเจ้าของเทคโนโลยี IGCC โดยบริษัทฯอาจมีการเจรจาเพื่อนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปติดตั้งในโครงการโรงไฟฟ้าอื่นที่ BPP ลงทุน โดยเทคโนโลยีดังกล่าวมีข้อดีคือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ถ่านหินที่มีคุณภาพสูงมากนักในการดำเนินการ จึงทำให้การเสาะหาเชื้อเพลิงง่ายมากขึ้น

คาดผลประกอบการ 1Q64 เติบโต YoY จาก 1)การ COD โครงการ Solar Farm ที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วง 4Q63 2) ได้แรงหนุนจากสภาพอากาศจีนที่หนาวเย็นมากกว่าปีก่อน ซึ่งทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และ 3)ฐานที่ต่ำในปี 2563 เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ในจีนเริ่มต้นตั้งแต่ช่วง ม.ค. 64

คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน ณ สิ้นปี 2564 ที่ 21.20 บาท อิง WACC 6.4% โดยมูลค่าดังกล่าวยังไม่ได้รวมผลประกอบการจากการลงทุนในโรงไฟฟ้า Nakoso IGCC และยังมี Upside จากการลงทุนในโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมในอนาคตเช่น โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ โรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงไฟฟ้าพลังงานลม และ Solar Farm ในประเทศต่างๆ

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1