ทันหุ้น-บล.โนมูระ พัฒนสิน ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR โดยมีมุมมองเชิงลบ จากผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3 และทำให้กรุงเทพมหานคร ได้ออกมาตรการคุมเข้มสั่งปิดโรงภาพยนต์ เป็นเวลา 14 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.2564 ซึ่งประเมินว่าการฟื้นตัวของผลประกอบการของ MAJOR มีแนวโน้มช้ากว่าคาด จากเดิมที่คาดจะฟื้นเป็นกำไรสุทธิตั้งแต่ไตรมาส 2/64 ที่ 114 ล้านบาท คงเลื่อนออกไป และกำไรสุทธิปี 2564 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 522 ล้านบาท คงมี Downside risk 

ฝ่ายวิจัย ได้ประเมิน  Downside risk จากผลกระทบการแพร่ระบาดระลอก 3 และมาตรการควบคุมของกรุงเทพฯ เป็น  2 Scenarios ได้แก่ กรุงเทพฯ สั่้งปิดโรงภาพยนตร์ 1-1.5 เดือน และการเข้าฉายของภาพยนตร์ Fast9 ช่วยกระตุ้นให้คนกลับมาเข้าชมภาพยนตร์ได้เร็ว คาดงวดไตรมาส 2/64 จะมีผลขาดทุนสุทธิ 188 ล้านบาท และคาดกำไรสุทธิทั้งปี 2564 อยู่ที่ 204 ล้าบาท ราคาเป้าหมายที่ 23.50 บาท ส่วนกรณีที่ 2 กรุงเทพฯ สั่งปิดโรงภาพยนตร์ 2-2.5 เดือน ใกล้เคียงการล็อคดาวน์ ในช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดไตรมาส 2/64 จะมีผลขาดทุนสุทธิ 479 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีก่อน และคาดว่าทั้งปี 2564 มีผลขาดทุนสุทธิ 165 ล้านบาท ราคาเป้าหมายที่ 22.50 บาท

อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 Scenarios คาดการฟื้นตัวในครึ่งหลังของปีนี้จะดีกว่าครึ่งหลังของปีก่อน เนื่องจากครึ่งหลังของปีนี้มีหนังฟอร์มใหญ่จากรอเข้าฉายหลายเรื่อง ขณะที่ในครึ่งหลังปีก่อนไม่มี และครึ่งหลังปีนี้ประชาชนไทยเริ่มทยอยฉีดวัคซีนแล้ว

แม้ระยะสั้นการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3 เป็นปัจจัยลบทำให้ประมาณการและราคาเป้าหมายมี Downside กดดันราคาหุ้น อย่างไรก็ตาม มองเป็นโอกาสทยอยสะสมคาดหวังการฟื้นตัวของผลประกอบการในครึ่งหลังของปีนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลายดีขึ้น, มีภาพยนต์ฟอร์มใหญ่เข้าฉาย โดยให้ราคาเป้าหมายปีนี้อยู่ที่ 24 บาท 

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1