> เคล็ดลับลงทุน >

10 มิถุนายน 2021 เวลา 06:30 น.

เศรษฐกิจไทยยังมีความหวัง (แม้จะฟื้นตัวช้าถึงช้ามาก)

สมกับเป็นวัน D-Day ที่รัฐบาลเริ่มปูพรมฉีดวัคซีนทั่วประเทศ วันที่ 7 มิ.ย.64 สามารถฉีดไปได้กว่า 416,847 โดส ต่อเนื่องวันที่ 8 มิ.ย.64 อีก 472,128 โดส ก้าวกระโดดจากที่ฉีดตลอด 2 สัปดาห์ทีผ่านมาเฉลี่ย 4หมื่นโดสต่อวัน ทำให้ยอดสะสมผู้ได้รับการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.64 มาอยู่ที่ 5,107,069 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 3,672,372 ราย และเข็มสอง 1,434,697 ราย 


พัฒนาการฉีดวัคซีนแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือข้างต้น ถือว่าสมกับที่นายกรัฐมนตรีได้ลงทุนลงแรงรวบอำนาจ โดยทำการกำหนดอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีตามกฎหมายโอนมาเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีตาม
กฎหมาย ใน 31 พระราชบัญญัติ เพื่อให้การจัดหาและจัดสรรวัคซีนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ


หากรัฐบาลต้องการที่จะฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมาย 100 ล้านโดสก่อนสิ้นปี 2564 รัฐบาลต้องฉีดให้ได้อย่างน้อยวันละ 5 แสนโดส เท่ากับต้องเพิ่มจากที่ฉีดปัจจุบันอีก 1-2 แสนโดส โดอกาสที่จะเกิดขึ้นมีความเป็นไปได้ในระดับหนึ่ง เพราะตามแผนไทยจะได้รับมอบวัคซีน AstraZeneca ราว 60 ล้านโดส (ทยอยส่งมอบตั้งแต่ มิ.ย. - ธ.ค. แบ่งเป็น มิ.ย. 6 ล้านโดส ถัดจากนั้นที่เดือนละ 10 ล้านโดส และ 5 ล้านโดสใน ธ.ค.) เมื่อรวมกับที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งซื้อวัคซีนเพิ่มทั้งจอห์นสัน &จอห์นสัน และไฟเซอร์ รวมกัน 25 ล้านโดส รวมไปถึง ชิโนแวคอีก 8 ล้านโดส นอกจากนั้นยังมีชิโนฟาร์มที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จะนำเข้ามาในล็อตแรก 1 ล้านโดส และการนำเข้าวัคซีนจากภาคเอกชนต่างๆเช่น โมเดอร์นา


จากการประเมินของธนาคารแห่งประเทศไทย หากรัฐบาลสามารถจัดการให้เกิดการฉีดวัคซีนได้ 100 ล้านโดสภายในปีนี้ได้จริง คาดจะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้ในไตรมาส 1 ปี 2565 และการขยายตัวของ GDP ในปี 2564 จะสามารถขยายได้ราว 2% ก้อนจะขยายเพิ่มขึ้นเป็น 4.5% ในปี 2565


จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่าการฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมาย เป็นภารกิจที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดที่จะกอบกู้เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 จนถึง 2565 ก่อนเศรษฐกิจจะฟื้นตัวกลับไปอยู่ในระดับเทียบเท่าก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด (ก.พ. 2563) ได้ในไตรมาส 1 ของปี 2566


แม้การขยายตัวของ GDP ในไตรมาสแรกของปีนี้จะหดตัวเล็กน้อยที่ -2.6% YoY แต่เศรษฐกิจไทยต้องมาได้รับผลกระทบหนักจากการแพร่ระบาดของโควิดระลอก 3 ตั้งแต่ เม.ย. มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งการแพร่ระบาดระลอก 3 นี้ รุนแรงแสนสาหัสกว่า 2 ระลอกแรกเป็นอย่างมาก ผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงักหลายส่วน แม้ว่ารัฐบาลจะไม่ได้มีมาตรการในการควบคุมโรคที่เข้มงวดเท่ากับระลอกแรก็ตามที


การระบาดที่รุนแรงและน่าจะกินระยะเวลาเนิ่นนานมากกว่า 4 เดือน ได้ส่งผลทำให้ประชาชนมีความกังวลในการเดินทางและลดกิจกรรมเศรษฐกิจของตัวเองลง โดยเฉพาะกิจกรรมที่จะต้องมีการพบปะ ดั่งจะเห็นได้จากข้อมูลของ Google Trends การค้นหาข้อมูล ร้านอาหาร โรงแรม นิทรรศการ โรงภาพยนตร์ หดตัวกว่า 70% ตรงกันข้ามกับการค้นหาข้อมูลการประชุมออนไลน์ บริการส่งอาหาร และซื้อสินค้าออนไลน์ ขยายตัวมากกว่า 200% จนถึง 2000% เช่นเดียวกับการเดินทางเส้นทางการบินในประเทศ และอัตราการเข้าพักห้องพักต่างๆ หดตัวอย่างรุนแรง (อัตราการเข้าห้องพัก เม.ย.64 เหลือ 14.6% ของอุปทานห้องพักทั้งหมด ต่ำกว่าระดับปกติในปี 2562 ที่ 80%)


ความเสียหายจากการแพร่ระบาดที่รุนแรงและกินระยะเวลาที่ยาวนานกว่าจะควบคุมได้ (ราว 4 เดือน) มีแนวโน้มที่จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจราว 3.1 แสนล้านบาทคิดเป็น 1.9% ของ GDPนอกจากนั้นยังอาจก่อให้เกิดแผลเป็นทางเศรษฐกิจที่จะฝังเป็นรากปัญหาต่อเศรษฐกิจไทยในอนาคตทั้งการปิดตัวของกิจการต่างๆเป็นจำนวนมาก การว่างงานที่จะสูงมากขึ้น การจ้างงานที่ต้องใช้ทักษะความชำนาญสูงซึ่งจะมีค่าจ้างสูงมีการหดตัว ตรงข้ามกับแรงงานค่าจ้างต่ำที่มีการจ้างงานมากขึ้น จะทำให้แรงงานขาดช่วงของการพัฒนา รวมไปถึงหนี้ภาคครัวเรือนที่พุ่งขึ้นสูงจากรายได้ที่ลดน้อยลงสวนทางกับหนี้ที่เพิ่มมากขึ้น ล้วนส่งผลเชิงลบต่อทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย และอาจทำให้การเติบโตของไทยอยู่ในระดับที่ล้าหลังหรือห่างจากระดับการเติบโตตามปกติที่ก่อนเกิดโควิด (Permanent Output Loss)


อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจไทยยังมีความหวังจากพัฒนาการฉีดวัคซีน และการดำเนินมาตรการการคลังจากภาครัฐ ทั้ง พรก.เงินกู้ ฉุกเฉินที่ยังเหลืออยู่อีก 2.4 แสนล้านบาท และ พรก.เงินกู้ใหม่อีก 5 แสนล้านบาท ซึ่งจะเป็นเม็ดเงินที่จะลงมาสู่ระดับผ่านโครงการต่างๆ ทั้ง โครงการเราชนะ คนล่ะครึ่ง หรือการให้เงินโดยตรงกับประชาชน นอกจากนั้นยังมีเรื่องการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ภายใต้กรอบงบลงทุนปี 2564 มาตรการต่างๆดังกล่าว จะเป็นส่วนช่วยสำคัญที่ทำให้การบริโภคภาคเอกชนจะไม่ปรับลดลงมากนัก


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X