ทันหุ้น - BAFS แย้มอยู่ระหว่างเจรจาซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในตปท. ขนาด 13 เมกะวัตต์ คาดใช้งบลงทุนไม่เกิน 700 ล้านบาท รับปริมาณการเติมน้ำมันเครื่องบินปี 2564 ชะลอตัวที่ระดับ 2,302 ล้านลิตร หลังโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย เชื้อธุรกิจขนส่งน้ำมันพ้นจุดต่ำสุดตั้งแต่ไตรมาส 2/2564 ด้านน้ำมันรวมทุกผลิตภัณฑ์ปีนี้เติบโต 3% หลังเพิ่มระยะขนส่งลำปางในไตรมาส 3/2564 นี้

นายประกอบเกียรติ นินนาท กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เปิดเผยว่า บริษัทยังคงมีความสนใจและมองหาโอกาสในการลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ประกอบการในต่างประเทศหลายราย แต่คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเร็วๆ นี้ จำนวน 1 ดีล ขนาดกำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 13 เมกะวัตต์ (MW) และคาดมูลค่าลงทุนราว 700 ล้านบาท อย่างไรก็ดีบริษัทยังจะมีการลงทุนต่อเนื่องโดยจะเน้นโครงการที่จำหน่ายเชิงพาณิชย์แล้ว เพื่อช่วยสร้างการรับรู้รายได้ให้กับบริษัทได้ทันที

*รุกหนักพลังงาน

โดยจากการเกิดวิกฤตโรคระบาดในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่างส่งผลกระทบอย่างมากต่อบริษัท เพราะทำให้ปริมาณการขนส่งทางอากาศและปริมาณการเติมน้ำมันเครื่องบินลดลง ซึ่งธุรกิจดังกล่าวเป็นรายได้หลักของบริษัท ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมาบริษัทจึงได้มองหาการลงทุนใหม่ๆ เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจหลักและลดการพึ่งพิงในธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งมากจนเกินไป จึงเข้าลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศ จำนวน 7 แห่ง กำลังผลิตรวม 36.4 เมกะวัตต์ ที่รับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาส 1/2564 เป็นไตรมาสแรก

"จากที่เราได้เข้าไปซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้โครงสร้างรายได้ของเรามีการปรับเปลี่ยนไป โดยสัดส่วนรายได้จากบริการเติมน้ำมันลดลงเหลือ 57%ขนส่งน้ำมันท่างท่อ 35%และจำหน่ายและผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อยู่ที่ 8%ของรายได้รวม ทั้งนี้เราจะพยายามเพิ่มสัดส่วนรายได้ที่ไม่ใช่การเติมน้ำมันเพิ่มขึ้นในอนาคต หรือ จะปรับสัดส่วนธุรกิจให้บริการน้ำมันเป็น 50% และอีก 50% เป็นธุรกิจอื่นๆ เพื่อลดความผันผวนจากรายได้การให้บริการเติมน้ำมัน ซึ่งภายหลังจากสถานการณ์ขนส่งทางอากาศฟื้นตัวแล้วเราก็มองการลงทุนธุรกิจพลังงานที่เป็นกรีนฟิลด์เพิ่มเติม"นายประกอบเกียรติ กล่าว

ปริมาณน้ำมันเครื่องบินหดตัว

ขณะที่ปริมาณการเติมน้ำมันเครื่องบินปี 2564บริษัทคาดว่าอัตราการเติบโตของปริมาณน้ำมันอากาศยานจะลดลง 2%หรืออยู่ที่ประมาณ 2,302 ล้านลิตร จากปีก่อน 2,354 ล้านลิตร เนื่องจากการกลับมาแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระรอกที่ 3ค่อนข้างรุนแรงและขยายตัวเป็นวงกวางอย่างรวดเร็ว ทำให้ปัจจุบันยังเป็นผลกดดันให้ปริมาณการขนส่งทางอากาศยังชะลอตัว อย่างไรก็ดีมองว่าธุรกิจขนส่งน้ำมันทางอากาศได้พ้นจุดต่ำสุดมาแล้วตั้งแต่ไตราส 2/2563

สำหรับน้ำมันรวมทุกผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการจะเติบโตขึ้น 3% หรือมีจำนวน 3,225 ล้านลิตร ส่วนความคืบหน้าโครงการขยายท่อส่งน้ำมันภาคเหนือ เฟส 2จากบางประอิน - ลำปาง ขณะนี้ใกล้แล้วเสร็จแล้ว และคาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในช่วงไตรมาส 3/2564 เป็นต้นไป

*BIDเนื้อหอม

ขณะเดียวกันบริษัท บาฟส์ อินโนเวชั่น ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด (BID) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่ BAFS ถือหุ้นทั้งหมด 100%ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับนวัตกรรม ดิจิตัลโซลูชั่นและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ มีการพัฒนาไปค่อนข้างมากแล้ว จากช่วงที่ผ่านมาเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้วัฒนธรรมในองค์กร รวมถึงระบบการทำงานต่างๆ ในบริษัทเปลี่ยนแปลงไป ทั้งกระบวนการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสาร หรือการอนุมัติงาน จำเป็นที่จะต้องปรับให้ดำเนินการผ่านระบบไอที จึงทำให้บริษัทมีการพัฒนาระบบ Low Cost Platform ภายใต้ชื่อ BRIDGE เพื่อมาตอบโจทย์ให้กับบริษัทไทยที่มีขนาดเล็ก-กลาง ให้พนักงานในองค์กรนั้นๆ สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานได้ง่ายที่บ้านในระยะเวลาที่สั้นลง ใช้ทรัพยากรสั้น ปัจจุบันมีลูกค้าเข้ามาติดต่อใช้บริการแล้ว 3-4 บริษัท

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1