ทันหุ้น - RS แย้มไตรมาส 3/64มีลุ้นปิดดีล M&A เพิ่มอย่างน้อย 1 ดีล พร้อมปูพรมรับกำไรส่วนแบ่งจากการลงทุนใน Chase เข้ามาเต็มสูบ มองภาพรวมไตรมาส 3/64 ยังมีความไม่แน่นอนของโรคระบาดเป็นปัจจัยกดดัน เล็งประกาศงบโค้ง 2/64 วันที่ 16 ส.ค. นี้ ด้านโบรกมองบวกครึ่งปีหลังและปี 65 ฟื้นตัวชัด แนะ "ซื้อ" เคาะเป้าปี 65 ที่ 29.30 บาท

ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 2564 นี้ บริษัทยังคงมีความสนใจในการลงทุนธุรกิจใหม่ๆ ที่สามารถเข้ามาช่วยสนับสนุนการต่อยอดธุรกิจหลักได้ โดยที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากพันธมิตรเข้ามาเจรจาเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาอยู่อีก 1-2 ดีล เบื้องต้นคาดว่าภายในช่วงไตรมาส 3/2564 จะได้เห็นความชัดเจนอย่างน้อย 1 ดีล

พื้นฐานแกร่ง

โดยประเมินขนาดการลงทุนเฉลี่ยที่ประมาณ 300-600 ล้านบาทต่อดีล เพื่อเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับผลการดำเนินงานในอนาคต รวมถึงเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ และแม้ว่าสถานการณ์ในปัจจุบันจะยังคงมีความไม่แน่นอนสูง แต่บริษัทยังคงไม่หยุดนิ่งในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลการดำเนินงาน ดังนั้นทุกดีลที่บริษัทศึกษาจึงเดินหน้าต่อ

สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 3/2564 ปัจจุบันยังคงคาดการณ์ได้ยาก เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ยังคงมีความรุนแรงและขยายตัวเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว ประกอบกับจากมาตรการล็อกดาวน์ทำให้เศรษฐกิจและกำลังซื้อในประเทศชะลอตัวลง แต่บริษัทก็มีความคาดหวังว่าภาครัฐจะเร่งปูพรมกระจายวัคซีนเชิงรุกได้ต่อเนื่องและรวดเร็ว ทำให้สถานการณ์ไม่ยื้อเยื้อลากยาวมาจนถึงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังปี 2564 บริษัทคาดว่ายังคงเดินหน้าได้ตามแผนงาน และยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ราวในปีนี้แตะระดับ 5,700 ล้านบาท และคงวางเป้าระยะยาวอีกประมาณ 3 ปี (2564-66) จะมีรายได้แตะระดับมากกว่า 10,000 ล้านบาท

ด้านการพัฒนาสินค้ากัญชาและกัญชงนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอกฎหมายจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งบริษัทจะออกผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องดื่ม-อาหารเสริม โดยคาดว่าช่วงไตรมาส 3-4/2564 จะได้เห็นสินค้าดังกล่าว คาดว่าจะเป็นปัจจัยช่วยเสริมผลการดำเนินงานให้เติบโตตามเป้าหมาย

ประกอบกับเมื่อช่วงต้นปีบริษัทได้มีการเข้าซื้อหุ้น บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด (Chase) จำนวน 35%มูลค่า 920 ล้านบาท เพื่อรุกเข้าสู่ธุรกิจ “บริหารสินทรัพย์-สินเชื่อรายย่อย” และสร้างการเติบโตในแนวราบ ซึ่งผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของ Chase สามารถสร้างกำไรได้เฉลี่ยปีละไม่น้อยกว่า 250-790 ล้านบาท คาดว่าปี 2564 บริษัทจะมีการรับรู้กำไรส่วนแบ่งจากการลงทุนใน Chase บันทึกเข้ามาจำนวน 10 เดือน (รับรู้ตั้งแต่มี.ค.64) เฉลี่ยประมาณ 90-100 ล้านบาท เข้ามาสนับสนุนผลงานปีนี้

ส่วนธุรกิจสื่อยอมรับได้รับผลกระทบบ้างในส่วนเม็ดเงินโฆษณาที่ชะลอตัวลงจากต้นปี ทั้งนี้บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ดีขึ้น และคาดว่าเม็ดเงินโฆษณาจะกลับมาได้เร็วหากสถานการณ์คลี่คลาย ขณะที่การประกาศงบผลการดำเนินงานของไตรมาส 2/2564 นั้น บริษัทคาดว่าจะมีการแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ภายในวันที่ 16 สิงหาคม 24564 นี้

แนะ"ซื้อ"29.30บ.

บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า คาดกำไรไตรมาส 2/2564 จะปรับตัวลดลงทั้งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน ซึ่งนับเป็นจุดต่ำสุดของปี เนื่องจากได้รับผลกระทบของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และต้นทุนที่เพิ่มจากการเปิดตัวสินค้าใหม่

อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายคาดว่าผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 นี้ จะเริ่มฟื้นตัวจากขยายธุรกิจขายสินค้าไปยังตลาด MASS มากขึ้น และธุรกิจทีวีคาดเม็ดเงินโฆษณาฟื้นตัว อย่างไรก็ดี ประเด็นบวกที่ยังไม่รวมในประมาณการ ได้แก่ แผนในการรุกกัญชง แผน M&A และแผนนำ Chase เข้าจดทะเบียนใน SET เป็นต้น

มองว่าราคาลงสะท้อนแนวโน้มผลประกอบการที่ชะลอตัวในไตรมาส 2/2564 ไปแล้ว ขณะเดียวกันทางฝ่ายคงมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการการในครึ่งหลังปี 2564 และปี 2565 ที่คาดว่าฟื้นตัวโดดเด่น จากการเติบโตจากธุรกิจขายสินค้าและการรุกธุรกิจใหม่ รวมถึงแผน M&A เป็นต้น ทำให้ทางฝ่ายแนะนำ “ซื้อ” โดยปรับไปใช้มูลค่าพื้นฐานปี 2565 ที่ 29.30 บาท