ทันหุ้น- อดีตปลัดพลังงาน “คุรุจิต นาครทรรพ” ค้านอุ้มราคาน้ำมัน ชี้ไทยเสีย ต่างชาติได้ โชว์โครงสร้างน้ำมัน ต้นทุนหลักมาจากต่างประเทศ ขณะที่ค่าการตลาดเหลือ 0.54 บาท ขี้บีบราคาต่อไปยาก ยกเว้นลดภาษีสรรพสามิตที่เก็บ 5.99 บาท แต่ย้ำไม่ควรลดช่วงรัฐต้องการรายได้ ด้าน PTG ยังคุมต้นทุนได้ หวังเปิดเมืองยอดขึ้น เดินหน้านอนออยล์

นายคุรุจิต นาครทรรพ ผู้อำนวยการสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ไม่สนับสนุนให้มีการบิดเบือนราคาน้ำมัน และควรปล่อยให้ราคาน้ำมันเป็นไปตามกลไกตลาด สะท้อนต้นทุน ซึ่งในส่วนน้ำมันดีเซล B7 ก็มีโอกาสที่จะเกินลิตรละ 30 บาท เนื่องจากไทยต้องนำเข้าน้ำมัน ดังนั้นผู้ได้รับประโยชน์ก็จะเป็นในฝั่งของต่างประเทศ ขณะที่ประเทศไทยซึ่งเป็นผู้นำเข้าอาจจะเป็นผู้เสีย จากการบิดเบือนโครงสร้างการใช้อุดหนุนไปเรื่อยๆ ระยะยาว คนรวยจะได้ประโยชน์มากกว่าคนจน และการบิดเบือนกลไกตลาดมากๆ อาจจะทำให้พลังงานขาดแคลน ดังนั้นควรที่จะรักษาสมดุลทั้งในด้านความพอเพียง ราคา และสิ่งแวดล้อม

หากประเมินจากโครงสร้างราคาน้ำมันของไทย ส่วนใหญ่มีต้นทุนที่มาจากต่างประเทศ โดย ณ วันที่ 8 ตุลาคม ไทยมีต้นทุนเนื้อน้ำมันที่มาจากต่างประเทศ 18.09 บาทต่อลิตร มีค่าพรีเมียม 0.23 บาทต่อลิตร มีการผสมไบโอดีเซล B100 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในไทยราว 2.75 บาท รวมเป็นต้นทุนเนื้อน้ำมัน 21.07 บาท

รองลงมาคือภาษีสรรพสามิต 5.99 บาทต่อลิตร มีภาษีเทศบาลอีกราว 0.60 บาทต่อลิตร มีการจ่ายเข้ากองทุนน้ำมัน 0.01 บาท กองทุนอนุรักษ์ 0.10 บาท และเป็นภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 1.94 บาท รวมเป็น 29.72 บาท

ซึ่งที่ผ่านมาไทยใช้วิธีการการลดค่าการตลาดไม่ได้ช่วยมากนัก ซึ่ง ณ วันที่ 8 ตุลาคม น้ำมันดีเซลมีค่าการตลาด 0.54 บาท เท่านั้น จากช่วงมีนาคม ที่มีค่าการคลาด 1.70 บาทต่อลิตร ดังนั้นจึงไม่สามารถลดค่าการตลาดได้อีก และไม่สามารถที่จะลดการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันที่เหลือแค่ 0.01 บาทได้ด้วย

ดังนั้นหากจะลดราคาน้ำมันลงมาก็จะต้องเป็นในส่วนของการภาษีสรรพสามิต ที่เก็บ 5.99 บาท แต่ก็มองว่าไม่สมควรที่จะลดลงมาโดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลต้องการรายได้ เช่นเดียวกับการลดการผสม B100 นั้นก็จะเป็นการลดการบริโภคสินค้าของเกษตรกรชาวไทยลง

นายคุรุจิต กล่าวอีกว่า นับจาก 8 มีนาคม-8 ตุลาคม ราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นมีการปรับเพิ่มขึ้นในกลุ่มเบนซิน 32-38% ขณะที่ราคาขายปลีกในประเทศปรับเพิ่มขึ้นเพียง 15-20% ส่วนกลุ่มดีเซลราคาหน้าโรงกลั่นปรับเพิ่มขึ้น 27-36% แต่ราคาขายปลีกในประเทศเพิ่มขึ้น 14-20% เท่านั้น

@PTGจัดการต้นทุนได้

ด้านนายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG กล่าวว่า บริษัทยังคงเน้นการบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดผลกระทบจากมาตรการลดภาระค่าครองชีพประชาชน ผ่านการลดค่าการตลาดน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาลงมาที่ 1.40 บาทต่อลิตรจากเดิมเฉลี่ยอยู่ที่ 1.80 บาทต่อลิตร รวมถึงการปรับสูตรน้ำมันดีเซลเหลือแค่บี 6 ตั้งแต่วันที่ 11-31 ตุลาคม 2564 ขณะเดียวกันบริษัทคาดหวังยอดขายน้ำมันในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของไตรมาส 4/2564 (พ.ย.-ธ.ค. 2564) ซึ่งจะเข้าสู่เทศกาลท่องเที่ยว – ปีใหม่ ประกอบกับภาครัฐกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศผ่านโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” และ “ทัวร์เที่ยวไทย” อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยช่วงปลายปี จะกระตุ้นบรรยากาศการเดินทาง – ใช้จ่ายในช่วงไตรมาส 4/2564 ให้กลับมาคึกคัก และหนุนรายได้ธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non Oil) ของบริษัทเร่งตัวขึ้นถึง 2 ดิจิตทุกครั้ง”

ทั้งนี้บริษัทยังคงตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน ให้มีสัดส่วนประมาณ 50-60% ของรายได้รวมภายในปี 2569เพื่อลดความผันผวนจากรายได้ของธุรกิจน้ำมัน (Oil) ด้วยการยกระดับสถานีบริการน้ำมันให้เป็น “คอมมูนิตี้มอลล์” ให้ประชาชนเข้ามาจับจ่ายใช้สอยได้โดยไม่ต้องเติมน้ำมัน โดยบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งค้าปลีก, ร้านอาหารประเภทต่างๆ, ควบคู่กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใน “ร้านกาแฟพันธุ์ไทย” อย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันบริษัทมีปั๊มน้ำมันกว่า 2,200 แห่ง และร้านการแฟพันธุ์ไทยกว่า 300 สาขาทั่วประเทศที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ทั้งนี้บริษัทยังคงเน้นมาตรการรักษาความสะอาดภายในปั๊มน้ำมัน โดยเฉพาะจุดสัมผัสร่วม และห้องน้ำ รวมถึงขอความร่วมมือผู้เช่าทุกรายดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกันประชาชนก็ตระหนักและสามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1