ทันหุ้น – ERW เผยอัตราการเข้าพักฟื้นตัวขึ้น คาดสิ้นปีแตะ 70% ไฮซีซันท่องเที่ยวหนุน แต่ต้องติดตามการแพร่ระบาดของโควิดอย่าใกล้ชิด แย้มไตรมาส 4/2564 บุ๊กกำไรพิเศษขายโรงแรมเรเนซองส์ -ไอบิส ส่วนปี 2565 ลุยขยาย ฮ็อป อินน์ ทั้งในไทยและฟิลิปปินส์ ลุ้น EBITDA กลับมาเป็นบวก

นางสาววรมน  อิงคตานุวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW เปิดเผยว่า สำหรับความกังวลในการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ปัจจุบันทางกลุ่มโรงแรมก็มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ขณะนี้ก็มองว่าจะยังไม่ส่งผลต่อการท่องเที่ยวมากนัก เชื่อว่าภาครัฐจะสามารถบริหารจัดการได้ จากการแพร่ระบาดครั้งที่ผ่านมา

นอกจากนี้ บริษัทเน้นการพึ่งพิงตลาดในประเทศ การขยายโรงแรมประเภท Hop Inn ในประเทศไทย เพราะมองว่ายังเป็นตลาดที่มีการแข่งขันน้อยและมีการเติบโตได้อีกมาก ทั้งนี้ปัจจุบันอัตราการเข้าพัก (OCC) ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 60% และคาดว่าสิ้นปีจะอยู่ที่ระดับ 70% เพราะช่วงปลายเป็นช่วงไฮซีซันทำให้มียอดจองโรงแรมเข้ามาต่อเนื่อง

“สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ก็ยังต้องจับตาต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันก็ยังเดินหน้าธุรกิจไปได้ ไตรมาส 4 อัตราการเข้าพักก็ดีขึ้น ปลายปีก็เป็นช่วงไฮซีซันการท่องเที่ยวทำให้คาดว่าอัตราการเข้าพักจะเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทเองก็มีการเตรียมความพร้อมในทุกส่วน เรื่องกระแสดเงินสดก็ไม่ได้เป็นปัญหา ปัจจุบันมีเงินสดในมือมากกว่า 1 พันล้านบาท เชื่อว่าจะสามารถบริหารจัดการภายในได้” นางสาววรมน กล่าว

*ลุยขยาย “ฮ็อป อินน์” ต่อ

ขณะที่ปี 2565 บริษัทยังเดินหน้าในการขยายโรงแรมใหม่ต่อเนื่อง เน้นโรงแรมประเภท Hop Inn ต่อเนื่อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในประเทศจะขยายเพิ่มอีก 7 แห่ง และในฟิลิปปินส์ อีก 2 แห่ง ด้วยงบลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้ปัจจุบันมีโรงแรมแบรนด์ Hop Inn ในไทย กว่า 40 แห่ง ในฟิลิปปินส์ 6 แห่ง และโรงแรมในกลุ่มอื่นอีกกว่า 10 แห่ง

ล่าสุดบริษัทขายหุ้นบริษัทเอราวัณ สมุย ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่เป็นบริษัทบริหารจัดการและเป็นเจ้าของโรงแรม เรเนซองส์ เกาะสมุยรีสอร์ท แอนด์ สปา ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อาร์เคเอส) ให้แก่บริษัท อินฟีนิตี้ ฮอสพิเทลลิตี้ โฮลดิ้ง จำกัด ในราคาขาย 531 ล้านบาท

และขายทรัพย์สินทั้งหมดในโรงแรมไอบิส สมุยบ่อผุด จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้แก่บริษัท อินฟีนิตี้ นอร์ท สมุย จำกัดในราคาขาย 394 ล้านบาท ทั้งนี้จะบันทึกกำไรพิเศษเข้ามาในช่วงไตรมาส 4/2564 นี้ ส่วนโอกาสจะขายโรงแรมอื่นๆ หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับจังหวะและความเหมาะสม อย่างไรก็ดีบริษัทก็เชื่อว่าผลประกอบการไตรมาส 4/2564 จะดีขึ้น ส่วนปี 2565 คาดว่า EDITDA จะสามารถเป็นบวกได้ จากความคาดหวังการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรม

*โอกาสสะสมเป้า 3.40 บาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง ERW ว่านักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยยังไม่มากตั้งแต่เปิดประเทศอยู่ที่ 1.3 แสนราย หรือเฉลี่ยวันละ 4 พันราย แต่การคลายมาตรการหนุนคนเดินทางและท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น บวกกับมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวภาครัฐ เช่น โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ส่งผลให้อัตราเข้าพักเดือนพฤศจิกายน (ไม่รวม Hop Inn) ดีขึ้นจากเดือนก่อน อยู่ที่ 28% และ Hop Inn ในไทยดีขึ้นที่ 50% ทั้งนี้ “Omicron” อาจส่งผลให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยลดลง บวกกับยุโรปที่กลับมาระบาดมากขึ้น

อย่างไรก็ตามไทยยังไม่พบการระบาด และเพิ่มความเข้มงวดคัดกรองนักท่องเที่ยวมากขึ้น บวกกับเดือนธันวาคม เป็นช่วงเทศกาลวันหยุดยาวน่าจะทำให้บรรยากาศไม่แย่มาก เว้นแต่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ในประเทศ เบื้องต้นยังคงประมาณการและราคาพื้นฐานเดิม ราคาหุ้นปรับลงมากเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าสะสม ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” ราคาพื้นฐานที่ 3.40 บาท

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1