> ประกัน >

02 กุมภาพันธ์ 2022 เวลา 12:59 น.

“สาระ ล่ำซำ”คิดการใหญ่ ขับเคลื่อน MTL สู่อนาคต

#MTL #ทันหุ้น- MTL เป็นมากกว่าประกันชีวิต เผยภายใต้เงาโฮลดิ่งทำให้ MTL เพิ่มศักยภาพทางการแข่งขัน สามารถลงทุนสตาร์ทอัพที่เอื้อธุรกิจ และปรับตัวให้ทันกับสังคมและไลฟ์สไตน์ที่เปลี่ยนไป รวมถึงสร้างพันธมิตรทางธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มที่เสนอแผนประกันภัยได้ทุกบริษัท พร้อมชูแนวคิด “MTL NEXT TO YOU” พัฒนารอบด้าน เคียงคู่ดูแลทุกช่วงของชีวิต


นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL กล่าวว่า การปรับโครงสร้างธุรกิจด้วยการตั้งบริษัทโฮลดิ้งนั้น MTLได้ดำเนินการมาก่อนหน้านี้หลายปีแล้ว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ทั้งการเข้าไปลงทุนในธุรกิจที่มีอนาคต การพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยีที่สนับสนุนการเติบโตระยะยาวของธุรกิจประกันชีวิต


ปัจจุบัน MTL เป็นบริษัทลูกของ บริษัท เมืองไทย กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งกรุ๊ปโฮลดิ้งดังกล่าวยังมีธุรกิจในมือที่เป็นทั้ง นายหน้าประกัน ในชื่อ บริษัท เมืองไทย โบรกเกอร์ ดำเนินการภายใต้แบรนด์ “gettgo”


บริษัท ไอเจ็น จำกัด หรือ aigen ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำการศึกษาค้นคว้า และพัฒนา AI (Artificial Intelligence) ของคนไทย เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจไทยที่ไม่จำกัดแค่ประกันภัยเท่านั้น และ บริษัท ฟูเชีย เวนเจอร์แคปปิทัล จำกัด ที่สร้างโอกาสการเติบโต การพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจการเงิน และประกันภัย โดยมุ่งเข้าไปลงทุนในกิจการ หรือสตาร์ทอัพที่มีอนาคต และเป็นประโยชน์กับธุรกิจประกันภัย


ลงทุนสตาร์ทอัพ

นายสาระ กล่าวต่อไปว่า ฟูเชีย เวนเจอร์แคปปิทัล ไม่จำกัดการลงทุนแค่สตาร์ทอัพที่เกี่ยวข้องกับการเงิน และประกันภัยเท่านั้น แต่ยังลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เช่น เอพิโบน (EpiBone) สตาร์ทอัพที่ศึกษาการสร้างกระดูกจากสเต็มเซลล์ บริษัท Alchemy Foodtech บริษัทพัฒนานวัตกรรมอาหาร สัญชาติสิงคโปร์ 


รวมถึงการพัฒนาโบรกเกอร์แนวใหม่ยุคดิจิทัล ที่ผสมผสานธุรกิจนายหน้าประกันภัย เข้ากับเทคโนโลยีด้าน HR เพื่อมสร้างสวัสดิการต่างๆ ให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า ในชื่อ บริษัท เบนนิกซ์ จำกัด (Benix) เป็นต้น


“การจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการแบบเฉพาเจาะจง เราต้องลงไปศึกษาเพื่อให้เข้าใจว่าสิ่งที่เราจะพัฒนานั้นสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงตามความไหม เราไม่ได้มองแค่เรื่องของความคุ้มครองในกลุ่มคนที่ยังไม่เจ็บป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บ แต่เราอยากให้คนทุกกลุ่มที่แม้จะเจ็บป่วยแล้ว ก็สามารถเข้าถึงความคุ้มครองด้วย เช่นที่เราศึกษาในเรื่องของประกันสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน  เป็นต้น”


นายสาระ กล่าวว่า MTL อยากเป็นมากกว่าบริษัทประกัน คือสามารถสร้างนวัตกรรม และบริการที่ตอบโจทย์โครงสร้างสังคมที่เปลี่ยนไป ทั้งเรื่องการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย การมีอายุยืนมากขึ้น ไลฟ์สไตน์คนยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ทำให้ประกันภัยต้องปรับตัวและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมากกว่าสินค้าความคุ้มครองชีวิต ซึ่งฟูเชียเวนเจอร์ แคปปิทัล มีงบลงทุนราว 1พันล้านบาท สำหรับการเข้าไปลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีอนาคต และสนับสนุนการเติบโต และแนวคิดของ MTL ทั้งในแง่ของผลิตภัณฑ์ และบริการ


มุ่งเข้าถึงทุกกลุ่ม

MTL ยังมีเป้าหมายเข้าถึงคนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ยังไม่ได้สนใจทำประกันภัย ซึ่ง นายสาระ มีมุมมองว่า อาจเพราะประกันภัยยังเข้าไปไม่ถึงทุกช่วงเวลา ทุกช่วงกิจกรรม (Moment) ของคนยุคใหม่ แต่เชื่อว่าจากการที่ MTL ปรับภาพลักษณ์องค์กรเพื่อจูงใจคนรุนใหม่เข้ามาร่วมงาน จะทำให้บริษัทสามารถดึงความคิด หรือแนวคิดในการทำแคมเปญ หรือกิจกรรมต่างๆ ที่เข้าถึงทุกช่วงชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้


“ รายังให้ความสำคัญกับกลุ่มคนทั่วไปที่มีกำลังซื้อไม่สูง และมองว่าประกันภัยเป็นสินค้าที่เกินเอื้อม ซึ่ง MTL ก็มีแผนพัฒนาแบบประกันที่ลูกค้ากลุ่มนี้สามารถจับต้องได้ โดยแนวทางจะออกมาในลักษณะคุ้มครองเฉพาะโรค เจาะจงมากขึ้นเพื่อให้เบี้ยประกันราคาถูกลง”


และด้วยแนวคิดถึงกล่าวทำให้ ปี 2565 MTL ดำเนินกลยุทธ์ภายใต้แนวคิด “MTL NEXT TO YOU” ที่มุ่งเน้นการพัฒนารอบด้าน เคียงคู่ดูแลทุกช่วงของชีวิต ประกาศจุดยืนในการเป็นผู้นำตลาดด้านความคุ้มครองสุขภาพ (Most Trusted Health Partner) และการบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Leader) นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบในด้านการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) การจัดการด้านสังคม (Social) และ การจัดการด้านธรรมาภิบาล (Governance) หรือ ESG อีกด้วย


ตั้งเป้าปี65โต10%

ขณะที่ ปี2564 เป็นปีที่ MTLครบรอบ 70 ปี มีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับใหม่ที่ 10% สำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง (Health & CI) เติบโตอยู่ที่ 31% มีสัดส่วนการขายแบบประกันชีวิตประเภทคุ้มครองชีวิตและประกันชีวิตควบการลงทุน (Protection and Investment Portion) สูงถึง 77% ขณะที่อัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับใหม่ของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (Investment Linked Product) อยู่ที่ 1,116%  ส่วนในปี 65 นี้ตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับใหม่ที่มากกว่า 10% โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตประเภทสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง และแบบประกันชีวิตควบการลงทุน

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X