#NEX #ทันหุ้น – NEX ปักธงผลงานปี 2565 เทิร์นอะราวด์ ล้างขาดทุนสะสม แย้มภาครัฐ-เอกชนเล็งเปลี่ยนใช้รถไฟฟ้า (EV Car) ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาไม่ต่ำกว่า 1 พันคัน คาดเดือนมิถุนายนนี้สรุปขยายโรงงานประกอบรถไฟฟ้าเพิ่ม มองโอกาสเติบโตสูง รองรับดีมานด์ต่อเนื่อง ฟากโบรกมองปี 2565 กำไรพุ่งแตะ 1.25 พันล้านบาท และเพิ่มเป็น 2 พันล้านบาท ในปี 2566
นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX เปิดเผยว่า สำหรับปี 2565 คาดว่าผลประกอบการกลับมาเทิร์นอะราวด์ จากความต้องการใช้งานรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สอดคล้องกับภาครัฐที่มีมาตรการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า โดยปัจจุบันมีการเจรจากับลูกค้าทั้งหน่วยงานภาครัฐ เทศบาล รวมถึงบริษัทเอกชน ที่ต้องการเปลี่ยนมาใช้งานรถไฟฟ้า ทั้งในส่วนของรถเมล์ไฟฟ้า รถบัสไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า เป็นต้น
โดยปัจจุบันมีการเจรจามากกว่า 1 พันคัน ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการส่งรถให้แก่ลูกค้าทดสอบ ได้รับความพึงพอใจจากลูกค้าอย่างมาก ทำให้ปัจจุบันโรงงาน ประกอบรถบัสและรถเพื่อการพาณิชย์ทุกประเภทของบริษัท กำลังการผลิต ที่ 3,000 คันต่อปี (1 กะ) มีออเดอร์รองรับเรียบร้อยแล้ว และเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในดือนมีนาคมนี้
*เล็งขยายโรงงานเพิ่ม
ขณะเดียวกัน บริษัทยังเตรียมที่จะขยายโรงงานประกอบรถไฟฟ้าเพิ่มคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งโรงงานดังกล่าวจะมารองรับออเดอร์ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่ากลุ่มบริษัทมีศักยภาพในการแข่งขัน เพราะมีพันธมิตรอย่าง EA ที่เป็นผู้ซัพพลายแบตเตอรีด้วย ขณะที่ NEX ได้รับส่วนแบ่งจากการร่วมทุนในโรงประกอบรถไฟฟ้า และยังเป็นผู้จัดจำหน่ายรถไฟฟ้าด้วย ดังนั้นถือว่ามีศักยภาพครบวงจรในการแข่งขัน และมีโอกาสสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทต่อไป
“มองว่าปี 2565 ผลประกอบการของบริษัทจะกลับมาดีต่อเนื่อง ปัจจุบันความต้องการเปลี่ยนมาให้รถไฟฟ้าทั้งรถเมล์ไฟฟ้า รถบัสไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้าก็มีต่อเนื่องและมีโอกาสเติบโตอย่างมาก ทั้งในส่วนของภาครัฐและภาครัฐเอกชนด้วย แต่มองว่าปีนี้รถเมล์น่าจะมีคำสั่งซื้อเข้ามาสูง ดังนั้นหากผลประกอบการกลับมาเติบโต บริษัทก็เดินหน้าล้างขาดทุนสะสมและกลับมาจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น” นายคณิสสร์ กล่าว
*เปลี่ยนใช้รถไฟฟ้า
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุถึง NEX คาดว่าจะรายงานผลขาดทุนสุทธิ 115 ล้านบาท ในปี 2564แย่ลงจากที่เคยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 439 ล้านบาท จากปัญหาการขายและส่งมอบ e-Bus ที่ล่าช้าจากการระบาด Covid-19 ที่ทำให้วันเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ของโรงงานผลิตเลื่อนออกไป 2 ไตรมาส อย่างไรก็ดีคาดว่าการขาย e-Bus ที่เลื่อนออกไปในครึ่งปีหลัง 2564 จะได้รับการแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยในปี 2565ซึ่งน่าจะช่วยผลักดันกำไรสุทธิของ NEX ขึ้นเป็น 1.25 พันล้านบาท ในปี 2565 และ 2 พันล้านบาท ในปี 2566 ซึ่งจะเป็นการพลิกฟื้นทางการเงินที่ดีสำหรับ NEX
สำหรับในปี 2566 NEX มีแนวโน้มได้สัญญาขาย e-Truck จำนวนมากให้แก่บริษัทเอกชนและเทศบาลหลายแห่ง ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการทดสอบ ประกอบรถขยะไฟฟ้าสำหรับเทศบาลและรถแทรกเตอร์สำหรับบริษัทเอกชนในหลายอุตสาหกรรม เช่น อาหารและเครื่องดื่ม โลจิสติกส์ และอิเล็กทรอนิกส์
เพราะฉะนั้นจึงคาดว่า NEX จะได้คำสั่งซื้อ e-Truck เพิ่มอีกกว่า 3,000 คันภายในปี 2565เพื่อส่งมอบตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป คำสั่งซื้อดังกล่าวอาจมีความเสี่ยงขาขึ้นเพิ่มเติมถ้า NEX ประสบความสำเร็จในการทดสอบ e-Truck กับหุ้นส่วนสัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันกำลังระหว่างการทดสอบ โดยผลทดสอบสุดท้ายมีกำหนดสรุปใน ไตรมาส 3/2565 คงแนะนำซื้อหลังปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจาก 25 เป็น 26 บาท (SOTP)
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม