> SET > LALIN

14 มีนาคม 2022 เวลา 12:17 น.

LALINโชว์สภาพคล่องแกร่ง ลุยโครงการใหม่ตุนพอร์ต

#LALIN  #ทันหุ้น - LALIN ยอดขาย 2 เดือนแรกดีต่อเนื่อง เตรียมเปิด 8 โครงการใหม่ ครึ่งปีแรก จากเป้าทั้งปี 2565 เปิด 10 -12 โครงการ มูลค่ารวม 7,000 – 8,000 ล้านบาท ปักธงยอดขายปี 2565 ที่ 8,500 ล้านบาท ปั๊มรายได้ 7,200 ล้านบาท เติบโตต่อเนื่อง 10% จากปีก่อน พร้อมโชว์สถานะการเงินแกร่ง คุมต้นทุนหนุนอัตรากำไร


นายเสรี สินธุอัสว์ กรรมการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ LALIN เปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนเเรกของปี 2565 บริษัทได้เปิดโครงการใหม่ไปจำนวน 3 โครงการ ซึ่งคาดว่าภายในครึ่งปีเเรก บริษัทจะสามารถเปิดโครงการทั้งหมดได้ราว 8 โครงการ มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท


ซึ่งทั้งปี 2565 บริษัทตั้งเป้าหมายการเปิดโครงการใหม่ 10 -12 โครงการ มูลค่ารวม 7,000 – 8,000 ล้านบาท โดยเน้นกลุ่มแนวราบที่เป็นตลาด Real Demand ระดับราคา 2 - 8 ล้านบาท


ในปี 2564 ที่ผ่านมาบริษัทมีการขยายโครงการใหม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ 9 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 6,000 ล้านบาท อีกทั้งมีการบริหารจัดการสภาพคล่องทางการเงินอย่างรัดกุม มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นปี 2564 มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) เพียง 0.60 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอยู่ที่ราว 1.4 เท่า และหากพิจารณาในแง่ของตัวเลขอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (Net D/E) ณ สิ้นปี 2564 อยู่ที่ระดับเพียง 0.22 เท่า ลดลงจากปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 0.31 เท่า สะท้อนถึงฐานะทางการเงิน และศักยภาพในการขยายธุรกิจโดยไม่มีปัญหาสภาพคล่อง

เคาะผลงานโต 10%


ส่วนทิศทางยอดขายในช่วง 2 เดือนเเรกของปี 2565 ถือว่าปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง เเละคาดว่าจะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งนี้บริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายสำหรับปี2565ไว้ที่ 8,500 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ที่ 7,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน ซึ่งบริษัทมีโครงการที่รอรับรู้รายได้ (Backlog)ณ สิ้นปี 2564 ประมาณ 1,200 ล้านบาท


ขณะที่ผลงานปี 2564 บริษัทสามารถทำผลงานได้ดีกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมียอดรับรู้รายได้ทั้งปีที่ 6,589.58 ล้านบาท เติบโตต่อเนื่องติดต่อกันมากว่า 6 ปี นอกจากรายได้ที่เติบโตสูงกว่าเป้าหมาย แม้ในสถานการณ์ที่ Demand อ่อนตัวลง


ลุยบริหารต้นทุน


สำหรับต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้นในปี 2565  ส่งผลต่อต้นทุนค่าก่อสร้างของบริษัทไม่มากนัก เนื่องจากบริษัทสามารถบริหารอัตรากำลังไรขั้นต้น โดยการล็อกราคาวัสดุก่อสร้างทั้งปี นอกจากนี้ยังมีการล็อกราคาเหล็กเป็นบางช่วง ทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้เป็นอย่างดี


โดยปี 2564 ต้นทุนการก่อสร้างหลายรายการปรับเพิ่มขึ้น แต่บริษัทยังคงสามารถบริหารจัดการได้ดี และสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ที่ 39.1% สูงกว่า Benchmark ของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ราว 31-32% รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนในการขายและบริหารที่มีประสิทธิภาพ ในปี 2564 ตัวเลขอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้ (SG&A/Revenues) ปรับดีขึ้นมาอยู่ที่ 9.1% ส่งผลให้กำไรสุทธิสำหรับปี 2564 อยู่ที่ 1,389.21 ล้านบาท ซึ่งหากเทียบกับกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติในปีก่อนหน้า เติบโตเพิ่มขึ้น 14.9% โดยมีอัตราส่วนกำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ 21.1% ดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ราว 11%


คณะกรรมการบริษัทอนุมัติจ่ายเงินปันผลรวมทั้งปี 2564ในอัตราหุ้นละ 0.63 บาท คิดเป็น Dividend Yield อยู่ที่ระดับ 5.7% โดยจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วที่ 0.295 บาท เหลือจ่ายเพิ่มเติมอีก 0.335 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD (วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล15 มี.ค. 2565 )กำหนดรายชื่อผู้ที่มีสิทธิรับเงินปันผล วันที่ 16 มีนาคม 2565 และกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 13 พฤษภาคม 2565


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1


จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X