> SET > PAP

25 มีนาคม 2022 เวลา 08:15 น.

ตะลึง! PAPมีปันผลให้17% เหล็กพุ่งขายชน 4 แสนตัน

#PAP #ทันหุ้น – PAP มองดีมานด์ใช้เหล็กในประเทศปี 2565 เติบโต หลังเศรษฐกิจฟื้น-โควิดคลายตัว รัฐ-เอกชนเดินหน้าลงทุนโครงการใหม่ คาดอุตสาหกรรมขยายตัวได้ 3-5% จากปีก่อน ขณะที่ราคาเหล็กปรับตัวเพิ่มขึ้น วางเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 5-7% จากปีก่อน และมีปริมาณขายแตะระดับ 4 แสนตันต่อปี


นายฐิตกร  อุษยาพร ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท แปซิฟิกไพพ์ จำกัด (มหาชน) หรือ PAP เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจและอุตสาหกรรมปี 2565คาดมีทิศทางขยายตัวดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน แม้การระบาดของไวรัสโควิด-19จะกลายสายพันธุ์ใหม่และยังมียอดตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอยู่ในปัจจุบัน แต่ด้วยความรุนแรงของโรคและอัตราการเสียชีวิตที่ลดลง ทำให้คาดว่ากิจกรรมการค้ายังดำเนินไปได้ตามปกติ


และคาดว่าภาครัฐอาจไม่ได้กลับมาล็อกดาวน์ประเทศเป็นเวลานานเหมือนกับในปีก่อนอีกแล้ว ส่งผลให้คาดว่าในปีนี้งานโครงการก่อสร้างใหม่ๆ ทั้งจากภาครัฐและโดยเฉพาะเอกชนจะขยายตัวเพิ่มขึ้น หลังจากที่ชะลอการลงทุนไปในปีก่อน จากปัจจัยดังกล่าวทำให้คาดว่าปีนี้ปริมาณการใช้เหล็กมีแนวโน้มจะขยายตัวขึ้น 3-5% จากปีก่อน อย่างไรก็ดีในปีก่อนบริษัทมีสัดส่วนยอดขายจากผู้ค้ารายย่อย 64%, โมเดิร์นเทรด 11%, อุตสาหกรรมก่อสร้าง 14% และอื่นๆ 11%


*ตั้งเป้ารายได้โต 7%


โดยบริษัทวางเป้ารายได้รวมจากการจำหน่ายเหล็กเติบโต 5-7%ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าอุตสาหกรรมเล็กน้อย จากปี 2564 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 9,716.61 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 554.69 ล้านบาท และคาดว่าปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กรวมในปีนี้จะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 400,000ตันต่อปี ทั้งนี้ ในช่วง 2-3เดือนแรกของปีนี้บริษัทเริ่มเห็นสัญญาการลงทุนจากภาคเอกชนในหลายอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้นแล้ว


ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิต 450,000 ต่อปี จากโรงงาน 4 แห่ง คือ โรงงานศูนย์พระประแดง, โรงงานศูนย์มหาชัย 1, โรงงานศูนย์มหาชัย 2 และโรงงานศูนย์มหาชัย 3ที่สามารถผลิตท่อเหล็กขนาดใหญ่พิเศษที่มีความหนาถึง 12.70 มิลิเมตร และท่อเหล็กขนาด 10-16 นิ้ว ด้วยระบบ Electric-Resistance-Welded Pipe (ERW) โดยมีศูนย์กระจายสินค้าอยู่ทั้งหมด 2 แห่ง คือ ศูนย์กระจายสินค้าลาดหลุมแก้ว และ ศูนย์กระจายสินค้าบางนา รองรับดีมานด์ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นได้


*ราคาเหล็กขาขึ้น


สำหรับผลกระทบจากการเกิดสงครามระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครนนั้น มองว่าเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อราคาเหล็กโลกให้ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากรัสเซียและยูเครน เป็นประเทศผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก คิดเป็นสัดส่วนรวมกันราว 5%อีกทั้งยังส่งผลกระทบไปยังค่าขนส่งที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น รวมถึงระยะเวลาการเดินทางที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

แต่อย่างไรก็ตามในตอนนี้บริษัทยังคงสามารถผลิตและจำหน่ายสินค้าให้กับลูกค้าได้ตามปกติ เนื่องจากแหล่งวัตถุดิบเหล็กของบริษัทส่วนใหญ่นำเข้ามาจากประเทศเวียดนาม ประเทศจีน และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะที่ราคาเหล็กนั้น คงเป็นปัจจัยที่คาดเดาได้ค่อนข้างยากเนื่องจากมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ราคาในตอนนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 10-15% แล้วเมื่อเทียบกับช่วงปลายปีก่อน


"แผนการลงทุนในปีนี้ไม่ได้มีการลงทุนขนาดใหญ่อย่างมีนัยสำคัญอะไร เพราะปัจจุบันอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 65% ยังมีความสามารถในการผลิตอีกมาก แต่การลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นในเรื่องของการนำเอาระบบออโตเมชั่นมาปรับใช้กับสายการผลิต ซึ่งที่ผ่านมาเอาระบบ IoT มาใช้สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ถึง 25% อย่างไรก็ดี หากว่ามีโอกาสดีๆ เข้ามาเราก็ไม่ได้ปิดกั้นและมีความพร้อม กระแสเงินสดก็ยังคงแข็งแกร่ง D/E อยู่ที่ระดับ 0.85 เท่า มีความพร้อมกู้เงินได้อีกมากในอนาคตหากเจอดีลที่เหมาะสม" นายฐิตกร กล่าว


รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X