GULF โบรกฯคาดผลดำเนินงาน Q2 โตต่อเนื่อง มี upside จากซื้อกิจการในอนาคต

#GULF #ทันหุ้นบล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) แนะนำซื้อหุ้นบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ให้ราคาเป้าหมายที่ 55 บาท โดยประเมินแนวโน้มผลดำเนินงานไตรมาส 2/65 ยังดีต่อเนื่อง หลังจากที่กำไรไตรมาส 1/65 ออกมาดีกว่าคาด และยังมีศักยภาพในการซื้อกิจการในอนาคต ซึ่งจะเป็น upside ต่อผลดำเนินงานได้

ฝ่ายวิจัยยูโอบี เคย์เฮียนฯ ระบุว่า GULF รายงานกำไรไตรมาส 1/65 ที่ 3.4 พันล้านบาท เติบโต 108% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และโต 18% จากไตรมาสก่อน ซึ่งสูงกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาด 69% แม้ว่าต้นทุนก๊าซธรรมชาติจะปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ GULF ยังคงรายงานกำไรไตรมาสแรกปีนี้ออกมาดีกว่าคาดสาเหตุหลักจากส่วนแบ่งกำไรของ GJP สูงกว่าที่คาด ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนการเดินเครื่องของโรงไฟฟ้า IPP ทั้งสองโรงมาใช้น้ำมันดีเซลแทนก๊าซธรรมชาติ ทำให้ heat rate margin ปรับตัวเพิ่มขึ้นขดเชยผลกำไรของโรงไฟฟ้า SPPs 7 โรงที่มีต้นทุนก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นได้

นอกจากนี้กำไรของโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เยอรมนี(BKR2) ปรับตัวขึ้นกว่าที่คาดแม้ว่าจะผ่านช่วง peak season ในไตรมาส 1/65 จากลมนอกฤดู และดอกเบี้ยจ่ายที่ปรับตัวลดลงต่ำกว่าที่คาด จากการ repayment หนี้สินและการปรับปรุงประมาณการหนี้สินการรื้อถอนของ BKR2 ท้ังนี้ Core profit ในไตรมาส 1/65 คิดเป็น 26% ของประมาณการกำไรปี 2565 ของฝ่ายวิจัย

ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2/65 ฝ่ายวิจัย คาดว่าผลดำเนินงานของ GULF แม้ว่าราคาก๊าซธรรมชาติจะยังทรงตัวในระดับสูง แต่ยังมีมุมมองที่เป็นบวกต่อ GULF ในไตรมาส 2/65 คาดว่าจะบันทึกกำไรของโครงการ GSRC Unit-3 มาเต็มไตรมาส และมีแรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลของ IPP ในไทย ซึ่งช่วยชดเชยปัจจัยด้านฤดูกาลของโรงไฟฟ้า BKR2

ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 2565 ของ GULF ที่ 12,243 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน และคาดว่า GULF จะ outperform ตลาดต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังเห็น potential upside จากการซื้อกิจการในอนาคต