จากเกษตรอุตสาหกรรมต่อยอดสู่ต้นแบบโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด

ธุรกิจ ACE ขับเคลื่อนบนหลักปรัชญาสำคัญที่ว่า “ทำของเสียไม่ให้เสียของ” แปรเปลี่ยนของเหลือทิ้งไม่ว่าจะเป็นวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร หรือ ขยะมูลฝอย มาสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้า

“จุดเด่นโรงไฟฟ้า ACE นอกจากเป็นโรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพในการผลิตสูงแล้ว ยังเป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงได้มาตรฐานระดับโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน” ในขณะเดียวกันก็ยังสร้างประโยชน์ในเชิงสังคมได้อีกมากมาย อาทิ โรงไฟฟ้าชีวมวล ACE ที่เปิดรับซื้อวัสดุเหลือใช้จากภาคการเกษตรหลากหลายกว่า 50 ชนิดตลอดทั้งปีเพื่อนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิง อาทิ ฟางข้าว ใบอ้อย ต้นข้าวโพด เปลือกข้าวโพด ต้นมันสำปะหลัง ฯลฯ นอกจากช่วยลดฝุ่น PM 2.5 ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการเผาวัสดุเหลือใช้แล้วยังสร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรได้ด้วย

ขณะที่ โรงไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชน ACE ถือเป็น “ต้นแบบโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ไร้กลิ่น ไร้มลพิษ”  สามารถเผาขยะทุกประเภทในโลกได้พร้อมกัน เช่น เศษไม้ กระดาษ พลาสติก ยาง ผ้า และเศษอาหาร ด้วยวิธีการเผาตรงระบบปิดแบบสูญญากาศ ไม่จำเป็นต้องมีการคัดแยกและแปรรูปขยะเป็นเชื้อเพลิงก่อน แม้กระทั่งน้ำชะขยะก็บำบัดให้เป็นน้ำใสและนำกลับมาใช้ประโยชน์ภายในโรงไฟฟ้า ติดตั้งระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศของโรงไฟฟ้าเชื่อมสัญญาณตรงยังกรมโรงงานสามารถมอนิเตอร์ได้แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง จึงมีความปลอดภัยต่อชุมชนรอบข้างสูง และช่วยลดปัญหาขยะล้นเมืองได้อีกทางด้วย ทำให้ปัจจุบันอาจกล่าวได้ว่า ACE ถือเป็นต้นแบบที่เชี่ยวชาญในการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดจากเชื้อเพลิงชีวมวลและเชื้อเพลิงขยะมูลฝอยที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุด ณ ปัจจุบัน

สร้างความเชื่อใจ เติบโตไปด้วยกัน

กว่า ACE จะประสบความสำเร็จมาถึงวันนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมของผู้บริหารที่บ่มเพาะมากว่า 40 ปี ทำให้มององค์รวมการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำได้ชัดเจน และอีกปัจจัยสำคัญนั่นคือการสร้าง “ความเชื่อใจ” ให้กับผู้มีส่วนได้เสียในทุกพื้นที่ที่ ACE เข้าไปดำเนินงานมาตลอด สอดรับตามปณิธานที่มุ่งมั่นเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดต้นแบบของโลก โดยแนวทางดำเนินกิจกรรมร่วมกับชุมชนของ ACE จะสอดรับเทรนด์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG ที่ครอบคลุมมิติสำคัญ ได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแลกิจการที่ดี คำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยแบ่งกิจกรรมเป็น 7 ด้านหลัก

1. ร่วมเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ทางด้านพลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเปิดโอกาสให้ชุมชน หน่วยงานท้องถิ่น ภาครัฐ ภาคเอกชนและสถานศึกษา เยี่ยมชมเทคโนโลยีการผลิตระบบปิดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนของโรงไฟฟ้า ACE

2. สร้างเครือข่ายเกษตรกรไทยในท้องถิ่นด้วยทีมบริหารมืออาชีพมากประสบการณ์ ทำให้มีเครือข่ายเกษตรกรที่กว้างขวางและซัพพลายเชนเข้มแข็ง จัดกิจกรรมร่วมกันต่อเนื่อง อาทิ โครงการปลูกไม้บนคันนา โครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือส่งมอบเกษตรกร โครงการกองทุนพัฒนาชุมชนโดยรอบพื้นที่โรงไฟฟ้า ฯลฯ

3. ส่งเสริมอาชีพเกษตรกรไทยสนับสนุนองค์ความรู้เกี่ยวกับพืชพลังงานอาทิ ร่วมมือพันธมิตรและสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) วิจัยพัฒนาพืชชนิดต่างๆ ส่งเสริมการปลูกพืชเพื่อสร้างรายได้

4. ส่งเสริมการปลูกป่าโดยทำ MOU กับคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศึกษาวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี เครื่องมือและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการปลูกป่าและการจัดการป่าปลูกอย่างยั่งยืน ล่าสุดเพิ่ง MOU ร่วมกับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ และบริษัท แอ๊ดวานซ์อาเชี่ยน จำกัด เพื่อศึกษาวิจัย เผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปลูกพืชพลังงาน ไม้โตเร็ว ไม้เศรษฐกิจ ไม้พื้นถิ่นให้ชุมชน

5. ร่วมพัฒนาเยาวชนและการศึกษาสนับสนุนเงินทุนการศึกษา ส่งเสริมทักษะด้านกีฬา คุณธรรม จริยธรรม ผ่านโครงการสร้างฝัน ปันยิ้ม น้องอิ่มสุข ผ้าป่าเพื่อการศึกษา เป็นต้น

6. ร่วมอนุรักษ์ฟื้นฟูประเพณี วัฒนธรรม อาทิ วันมาฆบูชา วันสงกรานต์ ทอดกฐิน ลอยกระทง เข้าพรรษา เป็นต้น