> เคล็ดลับลงทุน >

19 กันยายน 2022 เวลา 14:18 น.

‘BYD’ ผู้เล่นใหม่สู่ยักษ์ใหญ่ ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน

เทรนด์การรักษาสิ่งแวดล้อมกับราคาน้ำมันที่แพงขึ้นจนฉุดแทบไม่อยู่ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่ผู้คนมองหากันเวลาซื้อรถคันใหม่จนทำให้เกิดรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ออกมามากมาย หนึ่งในนั้นคือ BYD บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหน้าใหม่ที่พึ่งเข้ามาในตลาดเมืองไทย เราเลยจะพาไปรู้จักบริษัท BYD ให้มากขึ้นกัน


จากเจ้าตลาดผลิตแบตมือถือ

BYD หรือบริษัท Build Your Dream แต่เดิมเป็นบริษัทผลิตแบตเตอรี่ในประเทศจีน โดยในปี 2002 เป็นเจ้าแรกในจีนที่ได้เซ็นสัญญาเป็นบริษัทซัปพลายเออร์ที่ผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนให้กับบริษัทมือถือยักษ์ใหญ่ในสมัยนั้นอย่าง Nokia ก่อนจะกลายเป็นเจ้าตลาดผู้ผลิตแบตเตอรี่สำหรับโทรศัพท์มือถือที่ครองส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 50% ในอีก 10 ปีต่อมา


แล้ว BYD เข้าสู่วงการยานยนต์ได้อย่างไร?

เรื่องนี้ย้อนกลับไปในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ BYD เริ่มต้นเป็นยักษ์ใหญ่ในตลาดผู้ผลิตแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ เมื่อปี 2002 บริษัท BYD ได้ซื้อบริษัทรถยนต์ Tsinchuan Automobile แล้วเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “BYD Auto” และใช้ความชำนาญของการเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่มาก่อน พัฒนาต่อยอด จนสามารถผลิตรถพลังงานไฟฟ้าแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) คันแรกของโลกในปี 2008จนนักลงทุนชื่อดังระดับโลกอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ เข้ามาลงทุนในบริษัท BYD ด้วยมูลค่าราว 7,000 ล้านบาทในปีดังกล่าว


จากนั้น BYD ก็ได้ทำการพัฒนาเทคโนโลยีและรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ เรื่อยมา จนกลายเป็นบริษัทที่มีส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2021 สูงถึง 9% เป็นอันดับ 4 ของตลาดโลก รองจาก Tesla, Volkswagen Group และ SAIC นอกจากนี้ BYD ยังไม่ได้เป็นแค่ผู้นำในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในธุรกิจรถยนต์ ด้วยยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศจีนในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาอีกด้วย


BYD vs Tesla

เมื่อเทียบกับ Tesla ที่ผู้คนส่วนใหญ่รู้จักกันในฐานะผู้นำของรถยนต์ไฟฟ้าจากฝั่งโลกตะวันตก BYD จะมีความแตกต่างออกไปในมุมของการทำธุรกิจที่ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่รถยนต์ส่วนบุคคลอย่างเดียว แต่ BYD ยังขยายขอบเขตไปยังรถบัสไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า และรถรางโมโนเรลไฟฟ้าประกอบกับนโยบายของประเทศจีนที่ผลักดันเรื่องการใช้พลังงานสะอาดจึงทำให้ BYD มีแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่สูงกว่า


BYD จึงถือเป็นบริษัทหนึ่งที่น่าลงทุนเป็นอย่างมากด้วยศักยภาพของธุรกิจ และเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยสามารถเลือกลงทุนหุ้น BYD ได้ผ่านกองทุน K-CHX ที่ลงทุนในหุ้นจีนขนาดใหญ่สุด 50 ตัวแรกในตลาด A-Share ผ่านกองทุนหลัก CSOP FTSE China A50 ETF โดยผู้ที่สนใจสามารถเริ่มต้นลงทุนผ่านแอป K-My Funds ได้เลย


ดูรายละเอียดเกี่ยวกับกองทุน K-CHX เพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3PpFk11


คอลัมน์: Business Insider by KAsset

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X