> mai > TACC

10 ตุลาคม 2022 เวลา 09:00 น.

TACC โค้งท้ายกำไรนิวไฮ สาขา-“ออล คาเฟ่”หนุน

#TACC #ทันหุ้น - ส่อง TACC งบไตรมาส 3/2565ยังคงแข็งแกร่ง รับประโยชน์จากการเปิดโรงเรียน และกลับไปทำงาน Onsite มากขึ้น ขณะที่รายได้ลิขสิทธิ์การ์ตูนฟื้นตัวตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจกระตุ้นยอด จับตาโค้งส่งท้ายมีลุ้นกำไรทำนิวไฮ จากจำนวนสาขา All café หนุน


บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า(ประเทศไทย) จำกัด ประเมินแนวโน้มธุรกิจ บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC คาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2565 บริษัทจะมีกำไรปกติที่ 64 ล้านบาท (+0.1%QoQ, +23.3%YoY) แม้ว่าจะเป็น Low Season แต่ได้ประโยชน์จากการเปิดโรงเรียน และกลับไปทำงาน Onsite มากขึ้น และรายได้ลิขสิทธิ์การ์ตูนฟื้นตัวตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจกระตุ้นรายได้คาดเติบโต 3.0%QoQ และ 28.0%YoY เป็น 397 ล้านบาท


ขณะที่ราคาต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบชัดเจนขึ้นในไตรมาส 3/2565 และยังไม่มีการปรับราคาขายขึ้นในไตรมาสนี้ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้า คาด GPM ลดลงจาก 36.8% ในไตรมาส 2/2565และ 38.2% ในไตรมาส3/2564 เป็น 35.8% ในไตรมาส3/2565 ส่วนกำไรสุทธิคาดลดลง 6.3%QoQ เนื่องจากมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 4 ล้านบาท ในไตรมาส 2/2565


Q4 ลุ้นทำ New high

ในช่วงไตรมาส 4/2565 คาดรายได้ทำ New High ที่มากกว่า 400 ล้านบาท (High เดิม 402 ล้านบาท) เนื่องจากจำนวนสาขาของ All café เพิ่มขึ้น หนุนด้วยรายได้ผ่านช่องทางของ Lotus’s และการฟื้นตัวของธุรกิจลิขสิทธิ์การ์ตูนการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว รวมถึงผลของฤดูกาล


ขณะที่ผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นลดลง และหากมีการปรับขึ้นราคาขายจะช่วยหนุน GPM ให้ทำ New High ได้เช่นกัน เพราะลูกค้าผู้ประกอบการเครื่องดื่มต่างปรับราคาขายขึ้นแล้ว ซึ่งปกติแล้วมักจะไม่มีการปรับราคาขายลงอีกแม้ว่าต้นทุนจะลดลงทำให้ หาก TACC มีการปรับราคาขายขึ้นได้จะเป็นบวกในระยะยาวต่อ GPM คาดว่ากำไรปกติไตรมาส 4/2565 เบื้องต้นที่ 70 ล้านบาท +/-ทำสถิติสูงสุดใหม่


แนะนำ "ซื้อ”-เป้า 9.70 บ.

คงประมาณการกำไรปี 2565 ที่ 245 ล้านบาท (+18.5%YoY) แต่ว่ามีโอกาสสูงมากที่กำไรปกติจะดีกว่าที่เราคาดเพราะหากประมาณการกำไรปกติไตรมาส 3/2565 ของเราใกล้เคียงคาดจะทำให้กำไรปกติ 9 เดือนแรกปี 2565 คิดเป็นสัดส่วน 77% ขณะที่ไตรมาส 4/2565 คาดเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี ซึ่งจะส่งผลให้เราปรับประมาณการกำไรปี 2565 – 2566 ขึ้นได้อีก แต่ด้วยราคาตลาดปัจจุบันยังมี Upside Gain จากราคาเป้าหมายค่อนข้างมาก


จึงยังคงประมาณการเดิมเอาไว้ แต่ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 และด้วยภาวะการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นจากปริมาณเงินในระบบที่ลดลงจึงลด PER ในการประเมินมูลค่าลงจาก 22 เท่า เป็น 20 เท่า เมื่อรวมกับ Yuanta ESG Rating ที่ระดับบ AA  เราใช้ PER ที่ 20.4 เท่า ได้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 9.70 บาท มี Upside Gain 30.4% ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER66 เพียง 14.5 เท่า คงคำแนะนำ “ซื้อ”

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X