#SMK #ทันหุ้น -SMK เนเวอร์ดายส์ หลังศาลฯ ให้ฟื้นฟูกิจการ พร้อมตั้ง บมจ. สินมั่นคงประกันภัย เป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ และหาแนวทางในการชำระหนี้ผู้เอาประกันภัยโควิด ย้ำ! ยื่นคำขอรับชำระหนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค. 2565 - 20 ม.ค. 2566 ได้ที่ช่องทางออนไลน์ ขณะที่งานรับประกันประเภทอื่น และการเคลมสินไหม ยังคงดำเนินการได้ตามเดิม

บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ SMK แจ้งตลาดหลักทรัพย์ ว่าศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการสินมั่นคงประกันภัย และพร้อมเดินหน้าจัดทำแผนฟื้นฟูฯศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการกิจการของ SMK โดยได้ตั้ง บมจ. สินมั่นคงประกันภัย เป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ ในวันที่ 20 ตุลาคม 2565

SMKได้ฟื้นฟูกิจการ

“คำสั่งของศาลฯ สรุปสาระสำคัญว่า สินมั่นคงมีหนี้สินล้นพ้นตัว และมีเจ้าหนี้หลายคนรวมกันเป็นเงินไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท แต่กิจการของสินมั่นคงยังมีรายได้ ยังมีช่องทางและเหตุผลอันสมควร และสินมั่นคงยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการโดยสุจริต ทั้งไม่ปลากฎว่าลูกหนี้ขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้ทำแผน จึงมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของ บริษัทสินมั่นคง”

ทั้งนี้ บมจ.สินมั่นคงประกันภัยในฐานะผู้ทำแผนจะดำเนินการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการและเสนอต่อที่ประชุมเจ้าหนี้ อย่างเต็มที่ในการเจรจากับนักลงทุน เพื่อประโยชน์สูงสุดในการชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้สินไหมโควิดและจะแจ้งให้ท่านทราบถึงขั้นตอนในการยื่นคำขอรับชำระหนี้โดยเร็วที่สุด

บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะดูแลเจ้าหนี้สินไหมโควิด ภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการ และจะจัดเตรียมแผนฟื้นฟูฯ ที่เป็นประโยชน์และเป็นธรรมกับท่านมากที่สุด โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับความร่วมมือและยอมรับจากท่าน ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถจัดทำแผนฟื้นฟูฯ ได้สำเร็จ เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

ธุรกิจส่วนอื่นเดินหน้าปกติ

นอกจากนี้ การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการจะไม่ส่งผลต่อความพร้อมและความสามารถในการรับประกันและจ่ายสินไหมให้กับผู้เอาประกันภัยประเภทอื่นที่ไม่ใช่โควิด บริษัทพร้อมให้ความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย รวมถึงรักษาคุณภาพและความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการดังเดิม

ทั้งนี้ เจ้าหนี้ หรือผู้เอาประกันโควิด สามารถยื่นคำขอรับชำระหนี้ได้ด้วยตนเอง ตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค. 2565 - 20 ม.ค. 2566 ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ https://reorg-service.led.go.th/index/ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ โทร. 02-412-5201-13, 17-26 และ Call Center ของบริษัทฯ โทร. 02-378-7300

ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 SMK มีหนี้สินรวมทั้งสินราว 36,800 ล้านบาท และในส่วนของจำนวนผู้เอาประกันภัยกรมธรรม์ประกันโควิด ที่เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนแล้วจำนวน 350,000 ราย คิดเป็นค่าสินไหมทดแทนเกือบ 30,000 ล้านบาท ขณะที่สินทรัพย์รวมอยู่ที่ราว 9,809 ล้านบาท ซึ่งทำให้ SMK มีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน ราว 26,900 ล้านบาท ไม่เพียงพอต่อการจ่ายค่าสินไหม

ขณะที่ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2565 SMK มีหนี้สินเฉพาะค่าสินไหมทดแทนของประกันโควิดที่ถึงกำหนดชำระแล้วเป็นเงินราว 29,574 ล้านบาท แต่มีสินทรัพย์สภาพคล่องที่แปลงเป็นเงินสดได้ เพียง 2,541 ล้านบาท ไม่พอต่อจากจ่ายค่าสินไหม

จับตาแผนชำระหนี้

โดย SMKระบุแนวทางการเสนอชำระหนี้ ในการยืนขอฟื้นฟูต่อศาลฯว่า อาจมีแนวทางคือ 1.จ่ายชำระหนี้ด้วยเงิน ซึ่งได้รับจากการเพิ่มทุนในจำนวนหนี้ที่สอดคล้องกับความเสียหายที่เกิดขึ้น หรือการแปลงหนี้ค่าสินไหมประกันโควิด-19 เป็นทุน โดยการกหนดสัดส่วนการถือหุ้นและจำนวนหุ้นที่ได้รับให้สอดคล้องกับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้เอาประกันภัย

2. เปลี่ยนค่าสินไหมทดแทนกรมธรรม์โควิด เป้นความคุ้มครองประเภทอื่น เช่น ประกันรถยนต์ 3.ขยายระยะเวลาชำระหนี้ และผ่อนชำระหนี้จากกระแสเงินจากการดำเนินธุรกิจในอนาคต ซึ่งวิธีนี้มีโอกาสที่ผู้เอาประกันจะได้รับชำระหนี้ที่สูงขึ้น แต่มีข้อจำกัดเนื่องจากการคงอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งจะทำให้การหานักลงทุนเป็นไปได้ยากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากไม่นับความเสียหายจากประกันโควิด SMK ยังคงมีศักยภาพในการดำเนินงานรับประกันด้านอื่นๆ ที่สามารถสร้างรายได้และกำไรให้กับบริษัท โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 5 ปี (ปี 2559-2563) SMK สามารถทำกำไรสุทธิได้ระหว่าง 677-902 ล้านบาทต่อปี มีการจ่ายปันผลได้อย่างต่อเนื่อง