นายซุง ชง ทอย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SFT หนึ่งในผู้นำการให้บริการ Labeling Solutions แบบครบวงจร ด้วยผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า ปี 2566 บริษัทตั้งเป้าการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก (Double-Digit) จากการเติบโตของฉลากฟิล์มหดรัดรูปหรือ Shrink Label ที่โตล้อไปกับอุตสาหกรรม รวมถึงการได้รับ APR หรือ นวัตกรรมรักษ์โลก Green Shrink Film การผลิตฉลากรักษ์โลกที่สามารถรีไซเคิลได้ 100%
นอกจากนี้การเติบโตจะมาจากการเดินเครื่องเต็มของ Flexible Packaging หรือบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน ซึ่งจะล้อไปกับโรงงานแห่งใหม่ โดยจะเริ่มเดินเครื่องได้ประมาณไตรมาส 1/2566 อีกทั้งการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปจะช่วยลดต้นทุนการผลิตของโรงงานได้อีกด้วย สำหรับกำลังผลิตทั้งหมดของโซลาร์รูฟท็อปอยู่ที่ 600 กิโลวัตต์
สำหรับไตรมาส 3/2565 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 230.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.61 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.5% และมีกําไรสุทธิ 23.11 ล้านบาท ลดลง 9.89 ล้านบาท หรือลดลง 30% จากไตรมาส 3/2564 โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมีสาเหตุมาจากยอดคําสั่งซื้อของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับมีโปรเจ็กต์ใหม่ส่งผลให้มีรายได้ในส่วนนี้เพิ่มขึ้น
สัดส่วนรายได้จากไตรมาส 3/2565 มาจากระบบพิมพ์ Gravure Shrink Label 92.8% Gravure Cylinder 1.7% Digital Shrink Label 4.7% และ Flexible Packaging 0.5%
อย่างไรก็ตามบริษัทมองทิศทางการเติบโตของฉลากฟิล์มหดรัดรูปในประเทศไทยปี 2566 จะเติบโต 5.8% และจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปี 2568 คาดจะเติบโตถึง 9.5% ดังนั้นบริษัทจึงไม่กังวลการเติบโตของอุตสาหกรรม อีกทั้งจะทำให้บริษัทเติบโตล้อไปในทิศทางเดียวกันตามอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งนี้ลูกค้าหลักๆ ของบริษัทคืออุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม คาดจะเติบโต 17.8% กลุ่มของใช้ในครัวเรือนคาดจะเติบโต 3.9%และกลุ่มเครื่องสำอาง คาดจะเติบโต 7.5%
ขณะที่ในอนาคตเทรนด์รักษ์โลกจะเป็นกระแส โดยในปี 2573 กลุ่มสหภาพยุโรป (EU) จะออกกฎให้พลาสติกและบรรจุภัณฑ์ต่างๆ สามารถรีไซเคิลได้ 100% บริษัทพร้อมจะเป็นผู้นำด้านกรีนแพ็กเกจจิ้ง ซึ่งหลายบริษัทไม่สามารถทำได้ เพราะต้องอาศัยประสบการณ์ และบริษัทพร้อม และมีความเชี่ยวชาญด้านการผลิต
ด้านการขยายกำลังผลิต เครื่องจักรใหม่จะเพิ่มกำลังผลิต 23.8 ล้านเมตรต่อปี ปี 2566 คาดจะใช้กำลัง 50% ส่วนเครื่องที่มีอยู่ในโรงงานเก่า คาดจะย้ายไปโรงงานใหม่ ดังนั้นจะทำให้บริษัทมีเครื่องพิมพ์ Gravure ทั้งหมด 6 เครื่อง อยู่ที่โรงงานเก่า 4 เครื่อง และอยู่โรงงานใหม่ 2 เครื่อง
สำหรับการลงทุนในปีนี้ บริษัทลงทุนไป 226.9 ล้านบาท ส่วนในปี 2566 บริษัทมีแผนจะลงทุน 98.8 ล้านบาท แบ่งเป็น การลงทุนโรงงาน 30.7 ล้านบาท เครื่องจักร 61.5 ล้านบาท และอื่น 6.7 ล้านบาท
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
TWITTER คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม