> SET > BGRIM

24 พฤศจิกายน 2022 เวลา 11:40 น.

BGRIM 'เคจีไอ' อัพเป้าใหม่ Q4/65 แนวโน้มสดใส ปี 66 กลับมาแกร่ง

#ทันหุ้น - บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ส่องหุ้น บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM คงคําแนะนําซื้อ และประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2566 ใหม่ที่ 40 บาท จากเดิมที่ 38 บาท มองว่าผลการดําเนินงานมีแนวโน้มสดใสมากขึ้นตั้งแต่ Q4/65 เป็นต้นไป และกําไรน่าจะกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2566 ถึงแม้ว่าราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นมาแรงในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ประเด็นสําคัญด้านบวกที่ฝ่ายวิจัยได้จากการประชุมนักวิเคราะห์ยังทําให้มั่นใจที่จะแนะนําให้นักลงทุนประเภท risk-lover ซื้อต่อได้ 

โดยข้อมูลที่ฝ่ายวิจัยได้จากการประชุม BGRIM มุ่งสร้างการเติบโตระยะยาว และมีแผนจะเข้าซื้อกิจการอื่นเพิ่มอีก ฝ่ายวิจัยมุมมองเชิงบวกเล็กน้อยจากแนวโน้มการฟื้นตัวของกําไรใน Q4/65 บริษัทยังคงยํ้าเป้าหมายจะเพิ่มกําลังการผลิตติดตั้งเป็น 7,200MW ในปี 2568 (จากปัจจุบันที่ 4,035MW) โดยตั้งงบลงทุน (capex) เอาไว้ที่ 1.40 แสนล้านบาท (2565-2566) และไม่มีแผนจะเพิ่มทุน ทั้งนี้ กําลังการผลิตจะมาจากทั้งโครงการ greenfield และโครงการที่เปิดดําเนินการแล้วทั่ว ASEAN โดยส่วนใหญ่จะเป็นโครงการพลังานหมุนเวียน และโครงการที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง


นอกจากนี้ BGRIM ยังเข้าร่วมประมูลโครงการพลังงานหมุนเวียน 5.2GWh ในประเทศไทยด้วย (คาดว่าจะเป็นพลังงานลม และ solar>500MW) ในขณะที่ยังมีโครงการอื่นๆ อีกที่กําลังอยู่ระหว่างการเจรจา หรือรอการประกาศจากผู้รับซื้อไฟฟ้า (off-takers) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง PDP8 (LNG-to-power) ของเวียดนาม ทั้งนี้ BGRIM ก็เหมือนกับบริษัทอื่น ๆ ในกลุ่ม ที่เลื่อนการนําเข้า LNG จากปี 2566 ออกไป เนื่องจากราคา LNG ไม่เอื้ออํานวย


ปรับเพิ่มประมาณการกําไรเพื่อสะท้อนการปรับสมมติฐานราคาก๊าซ และอัตราแลกเปลี่ยน USD/THB ผู้บริหารคาดว่าจะมีการปรับขึ้นค่า Ft (ม.ค.-เม.ย. 66) ขึ้นอีก ≥0.6488 บาท/kWh เป็น 1.58 บาท/kWh ซึ่งกรณีนี้และราคาก๊าซ SPP อยู่ที่ 450-480 บาท/mmbtu จะทําให้ EBITDA margin ของ BGRIM ในปี 2566F ดีดตัวกลับขึ้นมาใกล้ระดับปกติ ดังนั้น จึงปรับเพิ่มประมาณการกําไรจากธุรกิจหลักในปี 2565-2567F ขึ้น 10-16% เพื่อสะท้อนถึงค่า Ft ที่สูงขึ้น แม้ว่าราคาก๊าซของ SPP เพิ่มขึ้น และอัตราแลกเปลี่ยน USD/THB จะลดลง 


**กำไรหลักปี 66-67 กลับมาแกร่ง

ฝ่ายวิจัยคาดว่ากําไรจากธุรกิจหลักในปี 2566-2567F จะกลับมาเติบโตอย่างเแข็งแกร่งถึง 418% YoY และ 92% YoY ตามลําดับ เนื่องจากราคาก๊าซ SPP ลดลง, ค่า Ft สูงขึ้น, มีกําลังการผลิตใหม่เพิ่มเข้ามา และประสิทธิภาพการผลิตของโครงการ SPP replacement ห้าโครงการดีขึ้น


**ราคาก๊าซ SPP ลดลงหนุนQ4/65

ฝ่ายวิจัยคงมองบวกกับแนวโน้มกําไรจากธุรกิจหลักใน Q4/65 โดยคาดว่ากําไรจะดีดตัวขึ้น QoQ เนื่องจากราคาก๊าซ SPP ลดลงในขณะที่ค่า Ft เฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 0.9343 บาท/kWh (+0.46) ส่วนราคาก๊าซของ SPP ใน Q4/65F คาดว่าจะลดลงเหลือ ~460-470 บาท/mmbtu (-16-18% QoQ) แม้ว่าจะเผชิญกับปัจจัยลบจากอุปสงค์การใช้ไฟฟ้าที่ลดลง และค่าใช้จ่าย SG&A ที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ BPWHA มีแผนปิดซ่อมบํารุง (98MWe) และต้นทุนดอกเบี้ยยังคงเพิ่มขึ้นอีก อย่างไรก็ตามผลประกอบการอาจจะพลิกกลับมาเป็นบวก หรือมีผลขาดทุนสุทธิลดลงก็ได้ ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน US$/THB


**ด้านปัจจัยเสี่ยง 

ปิดซ่อมบํารุงนอกแผน, ปัญหา cost overruns, ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และอัตราดอกเบี้ย



อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
LINE@ คลิก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X