> SET > UNIQ

19 ธันวาคม 2022 เวลา 15:43 น.

UNIQ ออกหุ้นกู้ 2 รุ่น ชูดบ. 3.70-4.95%ต่อปี เสนอขาย 17-19 ม.ค.66

#ทันหุ้น - UNIQ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ 2 รุ่นอายุ 1 ปี 7 เดือน อัตราดอกเบี้ยระหว่าง [3.70-3.85]% ต่อปี และหุ้นกู้อายุ 3 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยระหว่าง [4.80-4.95]% ต่อปี คาดเสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไประหว่างวันที่ 17-19 มกราคม 2566 ผ่านธนาคารกรุงไทย และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทยโดยบริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากทริสเรทติ้ง ที่ระดับ BBB แนวโน้ม “คงที่” ขณะที่หุ้นกู้มีอันดับความน่าเชื่อถือในกลุ่ม “ระดับลงทุน” หรือ Investment Grade ที่ BBB- เผยอุตสาหกรรมก่อสร้างฟื้นตัวชัดเจนหลังผ่านวิกฤติโควิด-19 พร้อมเดินหน้าขยายงานต่อเนื่อง ระบุในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 ได้รับงานจากการประมูลใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 63,271.01 ล้านบาท สะท้อนโอกาสและการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจ


นายเติมพงษ์ เหมาะสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มงานบัญชีและการเงินบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป ซึ่งคาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 17 – 19 มกราคม 2566 ผ่านธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)โดยเป็นหุ้นกู้อายุ1  ปี 7 เดือน อัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง [3.70 – 3.85]% ต่อปีและรุ่น 3 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง [4.80 – 4.95]% ต่อปีซึ่งบริษัทฯ จะประกาศอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนอีกครั้งทั้งนี้ หุ้นกู้ชุดดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ที่ระดับ BBB- ซึ่งเป็น “ระดับลงทุน” (Investment grade) ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือองค์กรอยู่ที่ BBB แนวโน้ม “คงที่” (Stable)


ทั้งนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทฯ ในการรับงานก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ และงานที่อยู่ระหว่างดำเนินการ (Backlog) จำนวนมากที่จะช่วยประกันรายได้ให้แก่บริษัทฯ ในช่วงหลายปีข้างหน้า ขณะเดียวกันทริสเรทติ้ง ระบุว่า การที่บริษัทฯ เน้นรับงานภาครัฐทำให้ความเสี่ยงในการไม่ได้รับชำระเงินอยู่ในระดับต่ำ โดยคาดว่า ระดับหนี้สินของบริษัทฯ จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อได้รับชำระเงินจากเจ้าของโครงการแล้ว 


นอกจากนี้ ทริสเรทติ้ง ยังคาดด้วยว่า บริษัทฯ จะสามารถบริหารจัดการสภาพคล่องได้อย่างเหมาะสม โดยหนี้สินรวมของบริษัทฯ ประมาณครึ่งหนึ่งเป็นเงินกู้โครงการระยะสั้นจากธนาคารที่ช่วยสร้างความยืดหยุ่นของระยะเวลาในการชำระหนี้ ซึ่งผลงานในการส่งมอบงานก่อสร้างต่างๆ จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถขยายระยะเวลาการชำระหนี้เงินกู้ระยะสั้นดังกล่าวต่อไปได้ และผลจากการปรับโครงสร้างทรัพย์สินของบริษัทฯ ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ มีเงินสดเพิ่มขึ้นเป็น 5.3 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 เพิ่มขึ้นจาก 3.8 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 2564 ที่ผ่านมา



“เราเชื่อว่า หุ้นกู้ UNIQ จะยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจของผู้ลงทุน และจะได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดีเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากศักยภาพและโอกาสในการเติบโตของบริษัทฯ ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ 3 และ ไตรมาส 4 ของปี 2565 บริษัทฯ มีการลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการของกรมทางหลวงชนบท ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างสะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ ถนนราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี 1 แห่ง มูลค่า  1,181.52 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างสะพานบนสายทาง รย.4060 อ.เขาชะเมา,แก่งหางแมว จ.ระยอง,จันทะบุรี 2 แห่ง  มูลค่าโครงการ 587.52ล้านบาท เป็นส่วนของบริษัทฯ 29.38ล้านบาท รวมถึงโครงการก่อสร้างวางท่อประปา ของการประปานครหลวง มูลค่า 66.80 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นโอกาสในการขยายงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของยูนิค ในฐานะบริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของประเทศ” นายเติมพงษ์ กล่าว


ทั้งนี้ ยูนิค เอ็นจิเนียริ่งฯ เป็นผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของไทย ที่มุ่งเน้นงานสาธารณูปโภคขนาดกลางและขนาดใหญ่ เช่น สถานีกลางบางซื่อ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในด้านบริหารการจัดการและการเลือกใช้เทคโนโลยีระดับสูงให้เหมาะสม และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญงานก่อสร้างสะพานโครงสร้างเหล็กและสะพานโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก งานก่อสร้างอุโมงค์รถยนต์ลอดใต้ทางแยก งานก่อสร้างทางพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กและแอลฟัลท์ติกคอนกรีต งานระบบสาธารณูปโภคใต้ดินทั้งไฟฟ้า ประปาและโทรศัพท์ 


รวมถึงงานในโครงการรับเหมาก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่มูลค่าโครงการสูง หรือเป็นโครงการที่ต้องอาศัยความชำนาญหรือเทคโนโลยีเฉพาะด้าน ลูกค้าของบริษัทฯ จะเป็นหน่วยงานภาครัฐหรือรัฐวิสาหกิจ เช่น กรมทางหลวง การไฟฟ้านครหลวง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นต้น เนื่องจากงานของบริษัทฯ ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางถึงคุณภาพและการบริหารโครงการที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้มีโอกาสรับงานจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง


สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน (มกราคม-กันยายน)ปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 8,521.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.78% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวม 7,979.83 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 31.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.25% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 20.18 ล้านบาท โดยในไตรมาสที่ 4 ปี 2565 บริษัทฯ มีงานที่อยู่ระหว่างดำเนินการ (Backlog) มูลค่าประมาณ 63,271.01 ล้านบาท ซึ่งสามารถทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 2568 และมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) สัญญาที่ 4 งานออกแบบและก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน ช่วงสะพานพุทธ - ดาวคะนอง รับรู้รายได้ถึงปี 2570



อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X