#WICE #ทันหุ้น – WICE ชี้จีนเปิดประเทศเร็วส่งผลดีทั้งกลุ่มขนส่ง ประกาศเพิ่มเส้นทางขนส่งจีน-สหรัฐ พร้อมรุกไต้หวันเพิ่มพื้นที่จีนมากขึ้น จริงจังเพิ่มไลน์ขนส่งอาหาร ขณะที่ ETL ขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนรับเต็มๆ มั่นใจดันรายได้ปี 2566 ดีกว่าเป้าเดิมที่วางไว้เติบโต 20% เดินหน้าเปิดสาขาเวียดนามและกัมพูชาด้วย

นายชูเดช  คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE เปิดเผยว่า การที่จีนประกาศยกเลิกมาตรการกักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศเริ่ม 8 มกราคมปีหน้า และเตรียมอนุญาตให้ชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศได้ ถือว่าเร็วกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจีนจะเปิดประเทศได้ในช่วงกลางปี 2566 ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งกลุ่มการขนส่ง (Transportation) ทั้งการขนส่ง ทางอากาศ ทางเรือทางบก เป็นต้น

บริษัทจะหันมาโฟกัสการทำตลาดจีนมากขึ้น โดยปัจจุบันเริ่มมีวอลุ่มการขนส่งสินค้าจากจีนกลับเข้ามา และมีแผนการขยายตลาดร่วมกันในประเทศจีน โดยเพิ่มเส้นทางการขนส่งจีนไปสหรัฐ และเพิ่มการขนส่งจากประเทศไทยไปสหรัฐ รวมถึงขยายการขนส่งจากอาเซียนไปสหรัฐด้วย

แม้ตลาดขนส่งในประเทศสหรัฐจะมีปัญหาด้านค่าระวางเรือที่ปรับตัวลดลง แต่บริษัทยังสามารถจัดการบริหารต้นทุนค่าขนส่งร่วมกับบริษัทในเครือเพื่อรักษาอัตรากำไรได้ ขณะที่ปริมาณการขนส่งยังคงเพิ่มขึ้น และมั่นใจว่าเมื่อค่าระวางเรือกลับมาสู่ระดับปกติ การขนส่งก็ยังจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยบริษัทมีแผนการเพิ่มสัดส่วนการขนส่งของสินค้าประเภทอาหารมากขึ้น นอกเหนือจากสินค้าประเภทกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์, กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน

@ ขนส่งข้ามแดนโตต่อ

นอกจากนี้การที่จีนเปิดประเทศก็จะสนับสนุนให้บริการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross Border Service) ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิลโลจิสติกส์ จำกัด (ETL) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีเส้นทางรถไฟลาวจีนอยู่แล้ว

ทั้งนี้ ETL ได้เดินตามแผนงานในการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO)ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ช่วงเดือนธันวาคม 2565 เพื่อขยายศักยภาพรองรับการเติบโตในอนาคต คาดว่าจะเข้าตลาดได้ภายในกลางปี 2566

@ รายได้อาจทะลุเป้า

นายชูเดช กล่าวว่า บริษัทมีแผนเปิดสาขาใหม่เพื่อขยายตลาดการขนส่งไปยังประเทศในทวีปเอเชีย และในภูมิภาคต่างๆ ที่มีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ อาทิ ประเทศเวียดนามและกัมพูชา รวมถึงขยายวอลุ่มการขนส่งไปยังตลาดในประเทศไต้หวัน และเพิ่มการขนส่งไปยังพื้นที่ต่างๆของประเทศจีนมากขึ้นอีกด้วย โดยการขยายเส้นทางครอบคลุมทั่วภูมิภาคจะเพิ่มโอกาสการขนส่งสินค้าและยังมีผลดีด้านการลดต้นทุนเพื่อเพิ่มกำไรให้กับบริษัทอีกด้วย

อย่างไรก็ดีบริษัทมั่นใจว่าอานิสงส์ของการเปิดประเทศจีน จะสามารถเข้ามาพักดันรายได้ของบริษัทให้มีการเติบโตมากกว่าเป้าหมายจากเดิมที่คาดว่ารายได้ในปี 2566 จะเติบโตที่ระดับ 20%

@3 ปี โตเฉลี่ย 15-20%

บริษัทได้มีการวางกลยุทธ์ 3 ปี (2566-2568) โดยจะมุ่งเน้นการทำงานร่วมกันมากขึ้นระหว่างบริษัทย่อยทั้งหมด 9 แห่ง เพื่อขยายตลาดให้กับบริษัทในเครือ รองรับปริมาณความต้องการขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้น อาทิ ประเทศจีน และ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีศักยภาพการเติบโตเป็นอย่างมากทั้งการขนส่งทางทะเลและทางอากาศ โดยมีแผนการขยายสำนักงานและบุคลากรอีกทั้งจุดเด่นของบริษัทในการใช้กลยุทธ์เข้าถึงลูกค้าในพื้นที่ด้วยการบริหารการขนส่ง และบริการหลากหลายอาทิ การให้บริการส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ (Reefer Container)การขนส่งสินค้าแบบไม่เต็มตู้ (LTL : Less-Than-Truckload) และบริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตเฉลี่ยของรายได้ 15-20% ต่อปีรักษาอัตรากำไรสุทธิ 7%

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1