#JR #ทันหุ้น – JR คว้างานรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ดันแบ็กล็อกทำสถิติทะลุหมื่นล้านบาท ชี้ต้นทุนลด ศักยภาพการประมูลงานเพิ่ม ปีนี้มาร์จิ้นจะเขยิบอีก เดินหน้ากวาดงานต่อเนื่อง ไตรมาส 1 มีประกาศงานอีก คงเป้าปีนี้โต 15-20% ลุ้นปรับเป้าเพิ่มไตรมาส 2

นายจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JR เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินโครงการตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงแยกลำสาลี-ถนนเทพารักษ์ กับบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC มูลค่าโครงการ 3,087,949,000 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยบริษัทมีระยะเวลาในการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1,260 วัน นับถัดจากวันที่ลงนามในสัญญา และรับประกัน 2 ปี ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) แตะ 10,500 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสร้างสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่จัดตั้งบริษัท และสามารถทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปอีก 3 ปี

@ศักยภาพเพิ่มดันมาร์จิ้น

ทั้งนี้การที่บริษัทมีมูลค่างานในมือที่สูงนั้น นับเป็นการสร้างความมั่นคงชัดเจน ทำให้บริษัทขยายกำลังคนเพื่อเตรียมการรองรับกับมูลค่างานในมือได้ ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโต ทั้งการการแข่งขันรับงานใหม่ที่มากขึ้นจากต้นทุนต่อหน่วยที่ต่ำลง

"หากมองในแง่ของค่าแรงที่มีโอเวอร์เฮดต่ำลงบริษัทก็จะมีการเติบโตดี เป็นปัจจัยในการแข่งขัน ท่ามกลางที่บริษัทมีกระแสเงินสดที่สูง นี่คือสิ่งที่ JR เตรียมตัวมาโดยตลอด ขณะเดียวกันบริษัทก็จะได้มาร์จิ้นที่ดีพอสมควรด้วย"

บริษัทยังคงเดินหน้ารับงานอย่างต่อเนื่องในปีนี้อีกราว 1,000-2,000 พันล้านบาท อาทิ การวางระบบไฟฟ้า, โครงข่ายสื่อสาร ฯลฯ ของทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนงานที่เกี่ยวข้องกับออยล์แอนด์แก๊สเพิ่มขึ้น โดยภายในไตรมาส 1 จะมีการรับงานที่เกี่ยวข้องกับออยล์แอนด์แก๊สซึ่งมีมาร์จิ้นดี ซึ่งบริษัทได้วางรากฐานในด้านนี้ไว้ก่อนหน้าแล้ว และบริษัทยังระหว่างการศึกษาและมองหาโอกาสลงทุนในธุรกิจใหม่ทั้งเกี่ยวที่เกี่ยวข้องและอื่นๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจและเสริมฐานสร้างรายได้ที่มั่นคงอย่างสม่ำเสมอ (Recuring Income) เพิ่มเติมในอนาคต หวังจะได้เห็นความชัดเจนเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ ในปี 2566

@ลุ้นปรับเป้าเกิน 15-20%

นายจรัญ กล่าวด้วยว่า บริษัทยังคงเป้ารายได้ในปีนี้จะเติบโต 15-20% ตามเดิม ซึ่งเป็นการเติบโตแบบอนุรักษนิยม อย่างไรก็ดี บริษัทจะรอดูไตรมาส 2 ว่าจะมีการเร่งงานไม่มากน้อยแคไหน ซึ่งมีโอกาสที่จะปรับเป้าช่วงนั้น มั่นใจขณะที่แนวโน้มผลงานครึ่งแรกปี 2566 บริษัทคาดน่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนจากครึ่งหลังปี 2565 เพราะธุรกิจมี Backlog ที่รอส่งมอบค่อนข้างมาก (ไม่รวมงานที่อาจจะได้เข้ามาเพิ่มเติม) ตลอดจนธุรกิจยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับทิศทางผลการดำเนินงานในปีนี้คาดว่าจะเติบโตแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หลังจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาคึกคักอีกครั้ง จากการเปิดเมือง ทำให้มีงานในส่วนของภาครัฐและเอกชน เปิดประมูล เพิ่มโอกาสในการรับงานมากยิ่งขึ้น

ในแง่ธุรกิจที่เกี่ยวพันกับแบตเตอรีนั้น บริษัทได้รับงานจากกลุ่ม บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ในด้านการการสร้างสถานีชาร์จขนาดใหญ่ ให้กับรถอีวีเพื่อการพาณิชย์อย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ประเมินว่าจะได้รับสถานีชาร์จประมาณ 40-50 แห่ง จากปี 2565 ที่ได้มีการติดตั้งไปแล้วเกือบ 20 แห่ง ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจอีกทางหนึ่งด้วย

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1