CK โบรกฯ แนะมองข้าม Q4/65 พร้อมฉายภาพระยะยาวที่สดใส

#ทันหุ้น - บล.เอเซีย พลัส หรือ ASPS สแกน หุ้น บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK คาดผลงาน Q4/65 ไม่เด่น แม้รายได้จากธุรกิจก่อสร้าง คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3,900 ล้านบาท (+6%QoQ,+10%YoY) จากการรับรู้รายได้โครงการใหม่ที่รับเข้ามาตั้งแต่ต้นปี 2565 มากขึ้น อย่างโครงการรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงของ และรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้รวมไปถึงการเร่งเก็บงานหลายโครงการที่อยู่ในช่วงท้ายๆ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกและทางด่วนดาวคะนอง-พระราม3 แต่รายได้ดังกล่าวยังถือว่าน้อยมาก หากเทียบกับช่วงหลายปีก่อนหน้าที่ CK เคยมีรายได้จากงานก่อสร้างในช่วง 5-8 พันล้านบาท/ไตรมาส

ด้านอัตรากําไรขั้นต้นของธุรกิจก่อสร้าง คาดการณ์ไว้ที่ 6.9% ต่ำกว่าเกณฑ์ปกติที่ CK เคยทําได้ในอดีตที่ประมาณ 8.0% เนื่องจากงาน margin สูงอย่างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกอยู่ในช่วงท้ายๆ ของงานก่อสร้าง ทําให้ margin ในภาพรวมถูกถ่วงลงจากงาน margin ต่ำ อาทิ งานอาคาร และงานโรงพยาบาล ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร รวมถึงดอกเบี้ยจ่ายค่อนข้างคงที่ในแต่ละไตรมาส โดยไตรมาสนี้ CK จะไม่มีเงินปันผลรับจาก TTW ครั้งละ 232 ล้านบาท เหมือนไตรมาส 2 และ 3

สําหรับส่วนแบ่งกําไรตามส่วนได้เสีย คาดไว้ที่ 231 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%YoY หลักๆ มาจากส่วนแบ่งกําไรของ BEM ที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินและจํานวนผู้ใช้ทางด่วน ส่วน CKP กําไรไม่เด่นจากปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่ลดลงตามฤดูกาล ส่งผลให้งวด Q4/65 CK ยังคงมีผลขาดทุนจากการดําเนินงาน 86 ล้านบาท อย่างไรก็ตามไตรมาสนี้ CK จะมีกําไรพิเศษก่อนภาษีจากการขายหุ้น BEM ออกไปบางส่วน จํานวน 180 ล้านบาท ทําให้ผลประกอบการยังมีกําไรสุทธิ 58 ล้านบาท (-90%QoQ,-52%YoY)

จับตาการเปลี่ยนแปลงครั้งสําคัญในปีนี้

ฝ่ายวิจัยมองข้ามผลประกอบการที่น่าผิดหวังในงวด Q4/65 โดยให้น้ำหนักกับการเปลี่ยนแปลงที่จะดีขึ้นอย่างชัดเจนในปี 2566 ทั้งในส่วนของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่มีโอกาสเห็นรายได้เติบโตก้าวกระโดด จากการเริ่มรับรู้งานก่อสร้างหลายโครงการใหญ่พร้อมกัน โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าหลวงพระบาง ใน สปป.ลาว มูลค่างานโยธา 8-9 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการลงทุนของ CKP ที่ CK จะเซ็นสัญญารับงานในฐานะ EPC Contractor เร็วๆนี้ เพราะ CK จะต้องเร่งงานก่อสร้างทางเบี่ยงเส้นทางน้ำในแม่น้ำโขงให้ทันก่อนถึงช่วงฤดูฝนปีนี้ รวมถึงงานก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำบางมด-สําโรง และรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ที่จะเริ่มลงหัวเจาะอุโมงค์ ทําให้การรับรู้รายได้ในปี 2566 มีมากขึ้น

นอกจากนี้หาก BEM ได้ลงนามสัญญาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกกับ รฟม. ก็จะยิ่งเป็นปัจจัยหนุนต่อรายได้ธุรกิจก่อสร้าง เพราะ CK จะเข้าไปรับงานก่อสร้างและงานติดตั้งระบบและจัดหาขบวนรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ต่อจาก BEM มูลค่า 1.09 แสนล้าน

สําหรับปี 2566 CK ยังคงติดตามงานประมูลโครงการขนาดใหญ่จากภาครัฐอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟทางคู่เฟส 2 อีก 3 เส้นทาง ,โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงส่วนต่อขยายโครงการถนนมอเตอร์เวย์ รวมมูลค่าทั้งหมดเกือบ 4 แสนล้านบาท ถือเป็นแหล่งงานสําคัญที่จะป้อนให้อุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างในช่วงหลายปีข้างหน้า

รวมไปถึงโอกาสที่ CK จะเข้าไปรับงานต่อจากบริษัทลูกอย่าง BEM ได้แก่ ทางด่วนชั้นที่ 2 (Double Deck) ซึ่งเป็นโครงการสําคัญที่จะช่วยเพิ่มพื้นที่จราจรบนทางด่วนเพื่อแก้ไขปัญหารถติด มูลค่างานก่อสร้าง 3.5 หมื่นล้านบาท และ งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล (M&E) รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ มูลค่า 27,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้อยู่ระหว่างขั้นตอนการก่อสร้างงานโยธา

นอกเหนือจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่มีแนวโน้มสดใสอย่างมากแล้ว CK ยังมีตัวช่วยสําคัญจากส่วนแบ่งกําไรบริษัทลูกทั้ง BEM และ CKP โดยเฉพาะ BEM ที่คาดจะเห็นกําไรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญในปี 2566 รับอานิสงค์การเปิดเมืองเต็มรูปแบบ ช่วยชดเชยส่วนแบ่งกําไรจาก CKP ที่ลดลง หลังคาดการณ์ปริมาณน้ําในปี 2566 ไม่มากเท่าปี 2565

แนะนํา ซื้อ รับปีทองของ CK

ฝ่ายวิจัยแนะนํา ซื้อ ประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี Sum of the part ได้ 27.00 บาท มี Upside 13% มองปีนี้เป็นปีทองของ CK ที่โดดเด่นขึ้นทุกด้าน ทั้งธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่มีทิศทางการเติบโตที่ชัดเจน และส่วนแบ่งกําไรตามส่วนได้เสียที่จะเพิ่มขึ้น โดย CK ถือเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีจุดเด่นไม่เหมือนใคร เพราะมีการกระจายความเสี่ยงผ่านการลงทุนในบริษัทลูกที่อยู่ในธุรกิจสัมปทาน ที่ช่วยสร้างกําไรให้ CK อย่างสม่ำเสมอ โดยไม่ได้พึ่งพิงรายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเพียงอย่างเดียว