> SET >

08 กุมภาพันธ์ 2023 เวลา 08:00 น.

MINT-AOT ต่างชาติหมายตา จัดพอร์ตลุยหุ้นโตสูงปันผลดี

#AOT #MINT #ทันหุ้น – บล.พาย มองค่าบาทผันผวนจากแรงกดดันเฟดขึ้นดอกเบี้ย กระทบต่อการลงทุนในภาพรวมต่อ ด้านโบรกแนะคัดธุรกิจที่เติบโตสูงสามารถทำผลประกอบการได้ดี อย่าง MINT-AOT ที่นักลงทุนต่างชาติโฟกัสไว้ด้วย ส่วนหุ้นเติบโตสูงจากเศรษฐกิจฟากเอเชียหนุน แถมปันผลดี ชู BBL-SPLAI และ LH


นายกวี ชูกิจเกษม Head of Research and Content บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐอเมริกเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ที่แตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 1 เดือนที่ 33.81 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ว่า ระยะสั้นความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนจะยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (FED) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 5.25%


พร้อมกันนี้คาดการณ์ความเคลื่อนไหวค่าเงินบาทเทียบค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เฉลี่ยทั้งปี 2566 ที่ระหว่าง 33 – 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยระหว่างปียังคงมีแนวโน้มผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจ และปัจจัยกดดัน


MINT-AOT หุ้นผลงานโต

พร้อมกันนี้ แนะนำนักลงทุนจัดพอร์ตการลงทุนใน 2 แนวทาง คือแนวทางแรกเข้าลงทุนในหุ้นที่ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มแนวเติบโตสูง (Growth Stock)และเป็นเป้าหมายเข้าลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ อาทิ MINT ที่คาดว่าผลการดำเนินงานกลุ่มธุรกิจโรงแรมปี 2566 จะฟื้นตัวโดดเด่นโดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมนอกยุโรป และกลุ่มโรงแรมในยุโรปที่ได้อานิสงส์จากต้นทุนพลังงานที่อ่อนตัวลง


MINT ยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายและบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อห้องพักเร่งตัวสูงกว่าช่วงปี 2562 ไปแล้ว เบื้องต้นคาดการณ์กำไรสุทธิทั้งปี 2565 ราว 1.6 พันล้านบาท พลิกจากขาดทุน 1.3 หมื่นล้านบาท ในปี 2564 และกำไรสุทธิปี 2566 จะเร่งตัวแตะ 5.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 251% YoY จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมที่ 40 บาท


และ AOT ซึ่งได้รับประโยชน์จากการเปิดประเทศจีน เบื้องต้นคาดการณ์ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2566 (ต.ค.-ธ.ค. 2565) ขาดทุนสุทธิเพียง 300 ล้านบาท และจะพลิกทำกำไรแข็งแกร่งตั้งแต่งวดไตรมาส 2/2566 เป็นต้นไป และคาดการณ์กำไรสุทธิทั้งปี 2566 ราว 1.08 หมื่นล้านบาท พลิกจากขาดทุน 1.1 หมื่นล้านบาท ในปี 2565 และจะเร่งตัวแตะ 2.7 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 156.2% YoY ในปี 2567 จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 78 บาท


สำหรับแนวทางที่ 2 คือหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตสูงตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งยังมีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูง อาทิ BBL ราคาเหมาะสมที่ 171 บาท คาดอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 3.5%, SPLAIราคาเหมาะสมที่ 28.40 บาทคาดอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 7.1%, และLH ราคาเหมาะสมที่ 11.10 บาท คาดอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 6.7%


ชี้เป้าเข้าหุ้นกลาง-เล็ก

นายสุนทร ทองทิพย์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) แนะนำนักลงทุนควรจัดพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจในประเทศที่มีแนวโน้มเติบโดแข็งแกร่งกว่าเศรษฐกิจโลก เนื่องจากการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนทั้งปี 2566 มีแนวโน้มผันผวนตามปัจจัยบวก – ลบที่เข้ามากดดันเป็นระยะ


โดยกรอบการลงทุนระยะกลาง – ยาว (ถือระยะ 6 เดือน – 1 ปี) อาทิ PAM, BAM และKTBขณะที่กรอบการลงทุนระยะสั้น (3-6 เดือน) ควรเลือกลงทุนในหุ้นขนาดกลาง – เล็กที่ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มเติบโต อาทิ SHR, STARK, AEONTS, SSC, KTB และ SCMT รวมถึงหุ้นที่รับอานิสงส์จากการท่องเที่ยว และการเข้าลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ อาทิ CPN, CRC, BDMS, MINT, AMANT และ WHA เป็นต้น


“ค่าเงิน และ SET เคลื่อนไหวเร็วเกินไป ผันผวนตามปัจจัยที่เข้ามากระทบ จึงมีความเสี่ยงมากเกินไปที่จะไล่ตาม นักลงทุนจึงควรจัดพอร์ตลงทุนในหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ รวมถึงหุ้นที่ได้รับผลดีจากภาคการท่องเที่ยว และการเข้ามาของเม็ดเงินใหม่ๆ เป็นหลัก”

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X