นายธงชัย ตันสุทัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอดดิจิ จำกัด (มหาชน) หรือ PDG ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ประเภทขวด Polyethylene Terephthalate (ขวด PET) เปิดเผยว่า บริษัทมองทิศทางธุรกิจปี 2566 จะฟื้นตัวต่อเนื่องจากปี 2565 และจะหนุนดีมานด์แพ็กเกจจิ้งขวดพลาสติก หรือบรรจุภัณฑ์ขวด PET เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มน้ำดื่ม และเครื่องปรุงรส ส่วนกลุ่มน้ำมันพืชอาจจะปรับตัวลดลงเล็กน้อย
สำหรับปี 2566 บริษัทตั้งเป้าเติบโต 10% ต่อจากปี 2565 โดยบริษัทมีแผนจะขายสินค้าใหม่ในกลุ่มลูกค้าเดิม และขยายฐานอื่นๆ เพิ่มเติม ส่วนยอดขายในเดือนแรกหรือเดือนมกราคมยังคงทรงตัว ไม่มีอะไรหวือหวา ขณะที่แนวโน้มคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) จากลูกค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ขวด PET สำหรับน้ำดื่มบรรจุขวดมีปริมาณมากขึ้น ตามปริมาณการบริโภค หลังเปิดรับนักท่องเที่ยวทำให้ยอดขายน้ำดื่มมากขึ้น ส่งผลให้ดีมานด์และออเดอร์สั่งซื้อขวด PET สำหรับน้ำดื่มบรรจุขวดเพิ่มขึ้น
ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์ขวด PET สำหรับน้ำดื่มบรรจุขวดอยู่ที่ 20% กลุ่มผลิตภัณฑ์ขวด PET สำหรับน้ำมันพืชอยู่ที่ 30-40% ส่วนที่เหลือจะเป็นสัดส่วนกลุ่มบรรจุภัณฑ์ขวด PET สำหรับน้ำผลไม้บรรจุขวดและกลุ่มผลิตภัณฑ์ขวด PET สำหรับน้ำปลาและเครื่องปรุงรสรวมกัน
ทั้งนี้คาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ขวด PET ที่จะเติบโตเด่นชัด มี 2 กลุ่ม คือกลุ่มผลิตภัณฑ์ขวด PET สำหรับน้ำดื่มบรรจุขวด คาดปี 2566 จะเติบโตไม่มาก หรือราว 10% และกลุ่มผลิตภัณฑ์ขวด PET สำหรับน้ำปลาและเครื่องปรุงรส คาดจะเติบโตสูงถึง 20%
ปัจจุบันบริษัทใช้กำลังผลิตอยู่ที่ 50-60% ซึ่งเป็นกำลังผลิตรวมทั้งโรงงานเก่า และโรงงานใหม่ที่จังหวัดสุรินทร์ สำหรับโรงงานที่จังหวัดสุรินทร์ เริ่มส่งผลต่อยอดขาย หลังบริษัทผลิตและขายสินค้าตั้งแต่ปลายปี 2564 ที่ผ่านมา และในปี 2565 บริษัทรับรู้ยอดขายเต็มปี เบื้องต้นคาดสัดส่วนยอดขายจากโรงงานที่จังหวัดสุรินทร์ปี 2565 จะอยู่ที่ประมาณ 10-15% ของยอดขายรวมทั้งหมด
ด้านผลประกอบการปี 2565 บริษัทมียอดขายรวมที่ 759.07 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 685.24 ล้านบาท ยอดขายเพิ่มขึ้น 72.82 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 10.77% -ขณะที่กำไรสุทธิปี 2565 ทำได้ 40.62 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 55.24 ล้านยาท ลดลง 14.61 ล้านบาท หรือลดลง 26.46%
ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของยอดขายในปี 2565 เพิ่มขึ้นจากการที่จำนวนลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น การทยอยปรับราคาสินค้าตามต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้น และยอดขายจากโรงงานที่จังหวัดสุรินทร์เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันกำไรสุทธิลดลง เป็นเพราะบริษัทได้รับผลกระทบจากราคาวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตปรับตัวสูง อีกทั้งต้นทุนค่าขนส่งและค่าแรงปรับเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ผลประกอบการในปี 2565 บริษัทมีผลประกอบการต่ำกว่าปี 2564
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม