#JUBILE #ทันหุ้น – JUBILEแย้มไตรมาส 1/2566 สดใส รับปัจจัยหนุนโครงการช้อปดีมีคืน ตรุษจีน และวันวาเลนไทน์ ฟากผู้บริหารพุ่งเป้ารักษามาร์จิ้นไม่ต่ำกว่า 45% ลุยขยายสาขาใหม่ 2-3 แห่ง พร้อมดันรายได้โตไม่ต่ำกว่า 10% เคาะเป้า 29.50 บาท

นางสาวอัญรัตน์  พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JUBILE เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2566 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% และรักษาเป้าหมายกำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) ให้อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 45% จากการบริหารต้นทุน และ Product Mix ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

** เปิดสาขาเพิ่ม

สำหรับปัจจัยหนุนการเติบโตในปีนี้ยังมาจากยอดขายของสาขาเดิม (SSSG) จาก ณ สิ้นปี 2565 บริษัทมีสาขาทั้งหมด 130 สาขา และจัดการช่องทางจัดจำหน่ายให้ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า บริษัทมีแผนขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 2-3 สาขา และปรับปรุงสาขารูปแบบเดิมให้มีความทันสมัยตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น

โดยในปี 2566 เชื่อว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้ตามเป้าหมาย แม้ยังมีปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจที่ค่าครองชีพสูงขึ้น โดยในไตรมาสที่ 1/2566 ด้วยนโยบายจากภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจ บริษัทได้รับอานิสงส์ของโครงการ ช้อปดีมีคืน ที่สามารถนำค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้ามาลดหย่อนภาษีในปี 2566 ประกอบกับการเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ๆ รับเทศกาลต้นปีอย่าง เทศกาลตรุษจีน และเทศกาลแห่งความรัก ช่วงวันวาเลนไทน์ ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดี

นอกจากนี้บริษัทได้ทำโปรโมชั่น ซื้อเพชรชำระผ่านบัตรเครดิตที่สร้างความสะดวกให้กับลูกค้า ตอบโจทย์เทรนด์ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง หรือ Buy Now Pay Later ได้เป็นอย่างดี ตลอดจนการทำกิจกรรมแคมเปญการตลาดที่เจาะกลุ่มเป้าหมายในทุกๆ ไตรมาส

***ผลงานนิวไฮ

โดยปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิปีเติบโตสร้างสถิติสูงสุดในประวัติการณ์ที่ 311 ล้านบาท เติบโต 38% และมียอดขายสูงถึง 1,786 ล้านบาท เติบโต 17% เมื่อเทียบกับปี 2564

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ระบุถึง JUBILE ว่าฝ่ายวิเคราะห์ได้ประมาณการรายได้และกำไรปี 2566 เพิ่มขึ้น 2% และ 12% ตามลำดับ เเละปรับเพิ่มประมาณการรายได้ขึ้นจาก 1,870 ล้านบาท สู่ 1,910 ล้านบาท เติบโต 2% เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวตามการเปิดรับนักท่องเที่ยวและการปรับปรุงสาขาให้เป็นขนาดใหญ่ราว 10 สาขา ช่วยหนุนรายได้ให้เพิ่มขึ้น

ขณะที่เราคาดว่าอัตรากาไรขั้นต้นจะทรงตัวที่ระดับ 50% เนื่องจากการบริหารต้นทุนและ Product Mix ที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้ได้ปรับเพิ่ม คาดการณ์กำไรปี 2566 จาก 318 ล้านบาท สู่ 356 ล้านบาท เติบโต 12% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

คงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับลดราคาเหมาะสมปี 2566 สู่ 29.50 บาท ประเมินมูลค่าเหมาะสมด้วยวิธี P/E Ratio โดยอิงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี ได้ Prospective P/E ที่ระดับ 14.4 เท่าลดลงจากครั้งก่อนที่ 17.5 เท่า ขณะที่ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 2566 จาก 1.83 บาทต่อหุ้นสู่ 2.04 บาทต่อ หุ้น ได้ราคาเหมาะสมปี 2566 ลดลงจาก 31.30 บาทสู่ 29.50 บาท  โดยคาดหวังอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 3.2%ต่อปี

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=