นายจตุรงค์ ศรีกุลเรืองโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TIGER เปิดเผยว่า บริษัทเบนเข็มธุรกิจไปสู่กลุ่มงานราชการมากขึ้น โดยคาดสัดส่วนรายได้จากราชการจะอยู่ที่ 90% และงานเอกชนจะอยู่ที่ 10% ปัจจุบันทิศทางงานกลุ่มราชการมีโปรเจ็กต์ทยอยออกมามากขึ้น ซึ่งบริษัทเตรียมเซ็นสัญญารับงานใหม่จากหน่วยงานราชการ มูลค่า 900 ล้านบาท เร็วๆ นี้
ขณะที่งานเอกชนบริษัทจะมุ่งเน้นรับงาน 2 ประเภท คือการงานก่อสร้างศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ และบ้านหรู มูลค่า 50-100 ล้านบาท ปัจจุบันมีบ้านรอก่อสร้างในแผนอีกประมาณ 10 หลัง จากปัจจุบันทำไปแล้ว 4-5 หลัง นอกจากการสร้างบ้านหรูแล้ว บริษัทจะต่อยอดบริการสมาร์ทเฮลธ์ สมาร์ทไลฟ์ และสมาร์ทเวิร์ก เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิต
ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการเข้าร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับทาง บริษัท คอรัล ไลฟ์ จำกัด ซึ่งได้เล็งเห็นถึงเทรนด์การพัฒนาอาคารที่ประหยัดพลังงานที่คนเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้น โดยการนำมาตรฐาน Passive House ของเยอรมนีมาใช้ในการควบคุมคุณภาพอากาศภายในอาคารหรือบ้านเรือน ทำให้สามารถประหยัดพลังงานได้มากและคุ้มค่าในระยะยาว แม้ว่าจะมีค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นกว่าปกติ 30% แต่ได้ความคุ้มค่าในเรื่องของการประหยัดไฟ และอากาศภายในอาคารหรือบ้านเรือน
สำหรับความร่วมมือกับระหว่างทาง TIGER และบริษัท คอรัล ไลฟ์ จำกัด นั้นจะเป็นในลักษณะคือ มีการนำโซลูชันดังกล่าวไปนำเสนอให้กับลูกค้าต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต และล่าสุดมีลูกค้าให้การตอบรับในการใช้ระบบมาตรฐาน Passive House มาอย่างต่อเนื่อง
“การท่องเที่ยวในไทยกลับมาแล้วก็จริง แต่ส่วนใหญ่จะเห็นการฟื้นตัวท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ส่วนโรงแรมบางแห่งก็ยังไม่ได้เปิดเต็ม Capacity เพราะบุคลากรเขายังไม่พร้อม ทำให้การก่อสร้างโรงแรมใหม่อาจจะยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ส่วนการรีโนเวตมีบ้าง แต่ยังไม่เยอะ” นายจตุรงค์ กล่าว
สำหรับทิศทางการเติบโตรายได้ปี 2566 คาดโต 30% จากปี 2565 ที่ 667.41 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ หรือ Backlog อยู่ที่ 1 พันล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ให้มากที่สุด อีกทั้งบริษัทจะคัดเลือกงานที่มีอัตรากำไร (มาร์จิ้น) เพื่อผลักดันมาร์จิ้นปีนี้ให้สูงกว่าปีก่อน อนึ่งปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 6.14 ล้านบาท
ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างปี 2565 ที่ผ่านมามีปัจจัยกดดัน 3 เรื่องได้แก่ เรื่องราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นและแกว่งตัวอย่างต่อเนื่อง และปัญหาการขาดแคลนแรงงานก่อสร้าง รวมถึงปัญหาด้านการเงินและกระแสเงินสดของเจ้าของโครงการภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด ส่งผลให้ที่บริษัทต้องปรับตัว และปรับกลยุทธ์โดยมุ่งงานราชการ เช่น งานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค ปัจจุบันยังมีทิศทางการเติบโตต่อเนื่อง
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม