#ทันหหุ้น - บล.ทรีนีตี้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมสำนักงานบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP รัฐอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) การ PTTEP หวนกลับมาลงทุนใน UAE อีกครั้ง หลังเคยถอนการลงทุนไปเมื่อกว่า 10 ปีก่อน ความสนใจในการลงทุนครั้งนี้ของ PTTEP คือกลับมาในจุดที่ตัวเองมีความเข้มแข็งในธุรกิจการสำรวจก๊าซเป็นหลักซึ่ง UAE อยู่ในอันดับ 7 ของโลกที่มี reserve gas ขนาดใหญ่กว่า 200 TCF 

นอกจากนี้ UAE เองก็มีการกำหนดยุทธศาสตร์ประจำชาติที่ชัดเจนที่จะเป็นผู้ส่งออก LNG ซึ่งรัฐบาลได้มีการลงทุนสร้าง LNGTerminal และท่อส่งก๊าซกว่า 300 กม. เพื่อรองรับการส่งออกและความมีเสถียรภาพทางการเมืองการปกครองอำนาจรวมอยู่ที่สุลต่านผู้เป็นประมุขประจำประเทศ ทำให้ความเสี่ยง political risk ค่อนข้างต่ำ

ปัจจุบัน PTTEP มีการลงทุนใน UAE คือ 5 แปลง (PTTEP ถือสัดส่วน 25%-30%) ที่อยู่ในขั้นการสำรวจโดยจะมี 2 แปลงที่จะเข้าสู่ FID ในปี 2566 นี้ และคาดว่าจะ First Gas ได้ในปี 2568 ซึ่งการใช้เวลาสั้นมากจากระยะ Exploration สู่ Commercialเมื่อเทียบกับการใช้เวลาปกติ 5-7 ปีเป็นเพราะมี Eni ที่เป็นpartner นั้นมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการที่จะสำรวจละขุดเจาะจนมาสามารถผลิตได้ในระยะเวลาอันสั้น

นอกจากการลงทุนใน UAE แล้ว PTTEP ยังมีการลงทุนใน Oman ด้วยเช่นกัน โดย PTTEP มองกลุ่ม Middle East เป็นภูมิภาคที่มีความน่าสนใจในการลงทุนด้วยหนึ่งเป็นแหล่งที่มี reserve gas ขนาดใหญ่สองความมีเสถียรภาพทางการเมืองการปกครองและนโยบายต่างๆ ปัจจุบัน PTTEP มีcontribution จาก Oman ราว 80 kboed หรือ16% ของปริมาณจำหน่ายของ PTTEP และมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นได้อีกโดยเฉพาะจากแหล่ง Oman block 61 ที่มีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 10 kboed ภายในปี 2569 และจากแหล่งอื่นๆ เพิ่มขึ้นมาอีกซึ่งคาดว่าจะถึง 100 kboed ในปี 2570

มุมมองฝ่ายวิจัย ชื่นชอบกลยุทธ์ของผู้บริหาร PTTEP ในหลายปีที่ผ่านมากลับมาสู่จุดแข็งของตัวเองในเรื่องธุรกิจก๊าซหลังจากก่อนหน้านี้หลายสิบปีที่บริษัทไปลงทุนในธุรกิจ oil sand และไม่ประสบความสำเร็จด้วย โดยตั้งแต่การเปลี่ยนกลยุทธ์และวิสัยทัศน์ของคุณพงศธร ทวีสิน ผู้บริหารท่านก่อนของ PTTEP ที่กลับมาเน้นธุรกิจก๊าซธรรมชาติในแถบภูมิภาคเอเชียที่ PTTEP มีความชำนาญและต่อยอดไปยัง Middle East จนมาถึงผู้บริหารท่านปัจจุบัน คุณมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ผ่านความสำเร็จจากการพิสูจน์ด้วยปริมาณขาย PTTEP ที่เพิ่มขึ้นจากระดับ 320 kboed ในปี 2560 มาเป็น 470 kboed ในปัจจุบัน แม้ว่าในธุรกิจนี้ความเสี่ยงเรื่องราคาน้ำมันจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งที่บริษัทจะสามารถควบคุมละจัดการได้ คือต้นการผลิตที่ผ่านมาบริษัทก็สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ในระดับที่ดีและไม่ผันผวนมากนัก

โดยราคาหุ้น PTTEP ปรับลดไป -18% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาตามราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ด้วยความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจที่อาจจะชะลอตัวส่งผลต่อความต้องการน้ำมันที่ลดลง ทั้งนี้ยังคงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 163 บาท 

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1