> Trendtalk > DDD

12 เมษายน 2023 เวลา 06:20 น.

TRENDTALK : DDD

#ทันหุ้น - ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเข้าใกล้แนวต้านที่ 1,600 หลังจากถูกขายทำกำไรในระยะสั้นลงไปทดสอบ 1,590 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1,618 และ 1,630 แต่เป็นจังหวะขายทำกำไรในระยะสั้น เพื่อรอการปรับฐาน


สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ DDD หรือ บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจผลิต วิจัยและพัฒนา ทำการตลาด และจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก อุปกรณ์ตกแต่งทรงผม อุปกรณ์เสริมความงาม ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องครัว และผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกับไลฟ์สไตล์ ภายใต้แบรนด์ต่างๆ ของบริษัท


ผลการดำเนินงานปี 65 มีกำไรสุทธิ 102 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.32 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานปี 64 ที่มีกำไรสุทธิ 92 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.26 บาท


DDD รายงานผลการดำเนินงานปี 2565 ด้วยรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 13.67คิดเป็นมูลค่า 1,603 ล้านบาท สวนทางกับต้นทุนขายที่ลดลง ดันให้กำไรจากการดำเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้นคิดเป็นมูลค่า 150 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 405และโชว์กำไรสุทธิที่ 135 ล้านบาท


นางสาวนันทวรรณ  สุวรรณเดช  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD กล่าวรายงานผลการดำเนินงานในปี 2565 ว่า "ในปี 2565 บริษัทมีรายได้จากการขาย 1,603 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 13.67สืบเนื่องจากการที่บริษัทได้มีการปรับแผนการดำเนินงานหลายด้านทั้งเชิงรุกและการตั้งรับกับสภาวะความผันผวนของเศรษฐกิจ โดยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและผลิตภัณฑ์เสริมความงามเติบโตในอัตราร้อยละ 15.93 และร้อยละ 11.22 ตามลำดับ รายได้จากการขายในประเทศยังเป็นสัดส่วนหลักคิดเป็นร้อยละ 65.31 และตลาดต่างประเทศมีการขยายตัวจากปีก่อนร้อยละ 88.69 นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้จากการลงทุนและรายได้อื่นๆ เข้ามาช่วยเสริมอีกกว่า 161 ล้านบาท


ในขณะที่ต้นทุนสินค้าและบริการสำหรับปี 2565 มีมูลค่า 557 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 34.72 ของรายได้จากการขาย โดยลดลงร้อยละ 4.90 Point เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีต้นทุนสินค้าและบริการ 559 ล้านบาท หรือร้อยละ 39.62 ของรายได้จากการขาย ผลสืบเนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น การรักษาประสิทธิภาพในการลดต้นทุนการผลิต รวมไปถึงการรับจ้างผลิตสินค้าให้กับบุคคลภายนอก (OEM) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสำหรับปี 2565 มีมูลค่า 896 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 55.92 ของรายได้จากการขาย โดยลดลงร้อยละ 2.35 point เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันในปี 2564 ที่มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 822 ล้านบาท หรือร้อยละ 58.27 ของรายได้จากการขาย โดยสอดคล้องกับแผน Synergy Roadmap ภายในกลุ่มบริษัทเพื่อลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานภายในกลุ่มของบริษัทอย่างต่อเนื่อง


จากปัจจัยข้างต้น บริษัทมีผลประกอบการพลิกฟื้นจากผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 (Operating Performance Turnaround) ตั้งแต่ปี 2564เป็นต้นมาและสร้างกำไรจากการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปี 2565 บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 405 ที่มูลค่า 150 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 9.36 ของรายได้จากการขาย เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีกำไรจากการดำเนินงาน 29.73 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.11 ของรายได้จากการขาย"


บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 20% สอดคล้องกับกลยุทธ์ 4 ด้าน ประกอบด้วยกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมสินค้า ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ด้านการขยายธุรกิจ และด้านการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการธุรกิจ โดยกลยุทธดังกล่าวจะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของบริษัทเพื่อไปสู่การเติบโตอย่างยังยืนในระยะยาว


นอกจากนี้ แนวทางการขยายธุรกิจของบริษัทจะครอบคลุมสินค้า 5 กลุ่มหลักได้แก่ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (Skin Care) ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว (Personal Care) ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์เสริมความงาม (Beauty Equipment) ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ (Sports and Wellness) และ ธุรกิจค้าปลีกและผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกับไลฟ์สไตล์ (Retail and Lifestyle) โดยอาศัยจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญและเข้าใจตลาด ซึ่งสอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินชีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและศักยภาพของตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง



ราคาหุ้นปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 14.40 หลังจากพยายามฟื้นตัวไปทดสอบแนวต้านที่ 16.00 ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนรับถัดไปที่ 13.50 บริเวณจุดต่ำสุดเดิม แต่เราคาดว่า ราคาหุ้น น่าจะมีโอกาสฟื้นตัวกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือระดับ 16.00 ถ้าสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านที่ 15.20 ขึ้น จึงแนะนำให้เข้าซื้อ ถ้าราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือ 15.20


รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X