> SET > TTB

23 พฤษภาคม 2023 เวลา 14:06 น.

ร้อนแรง TTB +4% ทำนิวไฮ บล.เมย์แบงก์เพิ่มเป้า 1.70 บ.

#TTB #ทันหุ้น -  ราคาหุ้น TTB ปิดช่วงเช้าที่ 1.56 บาท เพิ่มจากวันก่อน 4.00% ทำนิวไฮเมื่อเทียบราคาย้อนหลังในรอบ 52 สัปดาห์ บล.เมย์แบงก์ ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 66-67ขึ้น 9-11% ปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” เพิ่มราคาเป้าหมายจาก 1.55 บาท เป็น 1.70 บาท


การซื้อขายหุ้น ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB วันที่ 23 พ.ค. ช่วงเช้าราคาหุ้นเคลื่อนไหวในช่วง 1.50-1.56 บาท ก่อนจะปิดที่ 1.56 บาท ซึ่งเป็นการทำนิวไฮเมื่อเทียบราคาย้อนหลังในรอบ 52 สัปดาห์ ที่อยู่ในช่วง 1.09-1.53 บาท จากราคาปิดช่วงเช้าที่ 1.56 บาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 0.06 บาท หรือ +4.00% มูลค่าการซื้อขาย 829 ล้านบาท

บล.เมย์แบงก์ ระบุว่าได้ปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ”ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจาก 1.55 บาท เป็น 1.70 บาท (P/EV ปี 66 ที่ 0.72 เท่า, ROE 8.8%) และ เปลี่ยนหุ้นเด่น Top Pick แบงก์กลาง-เล็กจาก KKP เป็น TTB ทั้งนี้ ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 66-67 ขึ้น 9-11%โดยหุ้น TTB มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 6.2-7.6%ในปี 66-67 บนสมมติฐานอัตราการจ่ายเงินปันผลอยู่ที่ 50-55%


ธนาคารยังคงใช้กลยุทธ์ลดความเสี่ยง และมุ่งเน้นที่ความสามารถในการทำกำไรมากกว่าปริมาณสินเชื่อเพื่อลดความเสี่ยงด้านรายได้ และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ขณะที่ปัญหาคุณภาพสินทรัพย์มีจำกัดเนื่องจากพอร์ตสินเชื่อเติบโตทรงตัว YoY ในช่วงปี้ 62-65 ขณะเดียวกันทิศทางการใช้เงินทุนให้เกิดประโยชน์สูงสูด น่าจะนำไปสู่อัตราการจ่ายเงินปันผลที่สูงขึ้นและเพิ่ม ROE เราคาดการณ์ว่า ROE จะเพิ่มขึ้นเป็น 7.8-8.8% ในปี 66-68เทียบกับ 6.6% ในปี 65


บล.เมย์แบงก์ มีมุมมองเชิงบวกต่อกลยุทธ์ของ TTB ในการเปลี่ยนจากกลุ่มผลตอบแทนต่ำไปสู่สินเชื่อในกลุ่มผลตอบแทนที่ปรับตามความเสี่ยงที่ดีกว่า เช่น สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบ้าน และสินเชื่อส่วนบุคคล (เพิ่มขึ้น 3-4% QoQ ใน 1Q66) ขณะที่สภาพคล่องส่วนเกินระหว่างธนาคาร และตลาดเงินได้อานิสงส์จากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น


ทั้งนี้ จากพอร์ตสินเชื่อที่ไม่มีปัญหา เราคาดว่า NIM มีแนวโน้มที่จะเกินเป้าหมายที่ 3.1%ในปีนี้ ขณะเดียวกัน คาดว่าการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมจะอ่อนแอลง เนื่องจาก (1) การเติบโตของสินเชื่อที่ชะลอตัว (2) กิจกรรมในตลาดทุนที่อ่อนแอ และ (3) ค่าธรรมเนียมการเงินการค้าและอัตราแลกเปลี่ยนที่ต่ำตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

คุณภาพสินทรัพย์ดีส่งผลให้ต้นทุนสินเชื่อลดลง

เราเชื่อว่า TTB มีพอร์ตสินเชื่อคุณภาพดีเนื่องจากสินเชื่อเติบโตทรงตัวในปี 63-65 (ช่วงโควิด) นอกจากนี้ ธนาคารยังคงเดินหน้าตัดจำหน่ายและตั้งสำรองเต็มจำนวนสำหรับดอกเบี้ยคงค้างของสินเชื่อภายใต้การปรับพอร์ตการลงทุน (11% ของสินเชื่อรวมในไตรมาส 1/66) เพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งจากพอร์ตสินเชื่อคุณภาพดีที่นอกจากจะช่วยให้ต้นทุนสินเชื่อลดลงแล้ว หากแต่ยังหนุนให้ NII สูงขึ้นด้วย ทั้งนี้ เราคาดว่าต้นทุนสินเชื่อจะลดลงเหลือ 120-125bp สำหรับปีนี้ และปีหน้าจาก 134-178bps ใน 3ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้  TTB มีการควบคุมต้นทุนที่ดี โดยจำนวนพนักงาน สาขาและตู้เอทีเอ็มลดลง 1 ใน 3จากปี 62


เพิ่มคาดการณ์กำไร บริหารเงินทุนเพื่อเพิ่ม ROE

เราปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 66-67ขึ้น 9-11% สะท้อน NIM ที่สูงขึ้นและต้นทุนสินเชื่อที่ลดลง ด้วยกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นทำกำไรมากกว่าการเติบโตของสินเชื่อ เราจึงมองว่า ROE น่าจะเพิ่มขึ้นจากคุณภาพสินเชื่อที่ดีขึ้นและช่องทางในการลดเงินทุนส่วนเกิน ทั้งนี้ TTB ได้เปลี่ยนการจ่ายเงินปันผลเป็นปีละ 2ครั้งจากปีละครั้ง และเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผลเป็น 50%ในปี 65 จาก 36%โดยเฉลี่ยในช่วงปี 60-64 เนื่องจาก TTB ตั้งเป้าหมาย ROE ที่ 10% ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า เราจึงมองเห็นความเป็นไปได้สูงที่อัตราการจ่ายปันผลจะสูงขึ้นและมีการซื้อคืนหุ้น


รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X