#BBL #ทันหุ้น – วิเคราะห์หุ้นกลุ่มแบงก์หลังทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ย มองเป็นบวกกับธนาคารขนาดใหญ่ เช่น BBL-KTB-KBANK-SCB-TTB หนุนส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) เพิ่มขึ้น มองสินเชื่อครึ่งปีหลังเร่งตัวขึ้น ดันอัพไซด์และปันผล เพิ่มขึ้น ชู BBL เด่น ปัจจัยหนุนเพียบ

บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า BBL ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินกู้และเงินฝากเป็นธนาคารแรก:หลังจากคณะกรรมการ กนง. ได้ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีก 0.25% จาก 1.75% เป็น 2%BBL ได้เป็นธนาคารแรกที่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตาม โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากปรับขึ้น 0.05-0.25% และทางด้านเงินกู้ปรับขึ้น 0.20%

ขณะเดียวกัน คาดว่าธนาคารอื่นจะทยอยปรับขึ้นตามมาในเร็ว ๆ นี้ และคาดว่าการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในครั้งนี้จะทาให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของ BBL รวมไปถึงธนาคารอื่นที่จะทยอยปรับตามมาเพิ่มสูงขึ้นได้ต่อเนื่อง QoQ แต่หากเทียบ YoY จะลดลง จากการกลับมาจ่ายเงินสมทบกองทุนฟื้นฟู ฯในระดับปกติ

ทั้งนี้การปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นจะส่งผลดีต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย และคาดว่าสินเชื่อจะเร่งตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปี และทาให้รายได้ดอกเบี้ย รวมไปถึงกาไรเพิ่มสูงขึ้นได้ จึงยังคงน้าหนัก “ลงทุนมากกว่าตลาด” เช่นเดิม และยังเลือก BBL เป็น Top pick ของกลุ่ม

*แบงก์ใหญ่รับทรัพย์

บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยในบทวิเคราะห์ ว่า หลัง BBL ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากปรับขึ้น 0.05-0.25% (อัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์เป็น 0.6% ฝากประจำ 1-3 ปี อยู่ที่ 1.35%-1.90%) ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อปรับขึ้น 0.20% (MLR : 6.85%, MOR : 7.3% และ MRR : 7.05%) มีผลตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2566

ขณะที่คาดธนาคารพาณิชย์อื่นจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามมา ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นบวก กับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ เช่น BBL, KTB, KBANK, SCB, TTB เป็นต้น โดยช่วยให้ NIM เพิ่มในระยะสั้น ทั้งนี้เพราะสินเชื่อส่วนใหญ่อิงกับอัตราดอกเบี้ยลอยตัว แต่เงินฝากส่วนใหญ่เป็นเงินฝากประจำ

นักวิเคราะห์ DBSVTH ได้สะท้อนการปรับขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้ไว้ในประมาณการและราคาพื้นฐานหุ้นกลุ่มธนาคารแล้ว สำหรับหุ้นเด่นของฝ่ายวิจัยฯ เป็น BBL (ราคาพื้นฐาน 195 บาท) และ KTB (ราคาพื้นฐาน 23.30 บาท)

*KBANK ประกาศขึ้นดบ.

นายกฤษณ์  จิตต์แจ้ง กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า ตามทิศทางของภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น ส่งผลให้คณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 นั้น เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้มีการปรับตัวสอดคล้องกัน ธนาคารจึงพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์และเงินฝากประจำสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล 0.05-0.25% เพื่อเป็นการเพิ่มกำลังซื้อให้ลูกค้าสามารถรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจได้อย่างราบรื่น

ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อให้สอดรับกับการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ธนาคารจึงได้ทำการปรับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเพิ่มขึ้น 0.20% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) และ อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 7.02% 7.34% และ 7.05% ต่อปี ตามลำดับ โดยให้มีผลในวันที่ 6 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1