#THREL #ทันหุ้น - THREL รับอานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น หนุนพอร์ตลงทุนยิลด์สวย ผู้บริหาร “สุทธิ รจิตรังสรรค์”ส่งซิกครึ่งหลังปี 2566 แจ่ม ผลบวกอัตราเบี้ยใหม่ แถมวางหมากปี 2567 ผลงานโตต่อเนื่อง รับอุตสาหกรรมกลับเข้าสู่ภาวะปกติ-โปรดักต์ใหม่เสริม ขณะที่ Q2/2566 งบพลิกกลับมาทำกำไร 32 ล้านบาท จากไตรมาสแรกที่ขาดทุน
นายสุทธิ รจิตรังสรรค์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยรีประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ THREL เปิดเผยว่า จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับตัวสูงขึ้น ล่าสุดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี เป็น 2.25% จากเดิม2.00% ต่อปี
ครึ่งหลังแจ่ม
ทั้งนี้ จากปัจจัยดังกล่าวนั้นบริษัทมองว่าเป็นผลบวกต่อธุรกิจ เนื่องจากจะช่วยสนับสนุนให้ผลตอบแทนจากการลงทุน (ยิลด์) ของบริษัทในส่วนของตราสารหนี้เพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกันและถือเป็นอีกแรงสนับสนุนภาพรวมธุรกิจให้ขยายตัวมากขึ้น
ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 2566 ประเมินน่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับครึ่งแรกปีนี่ เพราะทิศทางอัตราเบี้ยรับโดยรวมขยับเพิ่ม หลังบรรยากาศทางเศรษฐกิจฟื้นตัว ประกอบกับแนวโน้มผู้เข้าใช้บริการรักษาในโรงพยาบาลต่างๆ ขยายตัว
ปีนี้เบี้ยโตต่อ
สำหรับปี2566 เบื้องต้นบริษัทตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยต่อรับรวมจะสามารถเติบโต 4-5% เมื่อเทียบกับปี 2565 สูงกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมประกันชีวิตที่คาดการณ์เติบโตได้ราว 0-2% พร้อมรักษาระดับ Combined Ratio (COR) ไว้ที่ 95%หลังแนวโน้มความต้องการเติบโตต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะกลุ่มมากขึ้น โดยเฉพาะด้านจิตเวช และกลุ่มผู้สูงวัย เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างต่อเนื่องสนับสนุนภาพรวมธุรกิจให้เป็นไปตามที่วางไว้ด้วย
ปีหน้าอุตสาหกรรมฟื้น
อย่างไรก็ดี เบื้องต้นในปี 2567 ประมาณการทิศทางการเติบโตของ THREL จะกลับมาเติบโตตามปกติเฉลี่ย 5-7% จากปี2566 ผลมาจากมองว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมประกันภัยจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังปัจจัยพิเศษ อาทิ การแพร่ระบาดของโควิดคลี่คลาย
อนึ่งงบการเงินงวดไตรมาส 2/2566 บริษัทพลิกมีกำไรสุทธิจำนวน 32 ล้านบาท เทียบจากไตรมาส 1/2566 ที่ขาดทุนราว 15 ล้านบาท โดยมีกำไรจากการรับประกันภัย 20 ล้านบาท ตามเบี้ยประกันภัยต่อรับที่เติบโตต่อเนื่องกว่า 50% จากไตรมาสก่อนหน้าแตะ 998 ล้านบาท
โดยเบี้ยประกันภัยต่อที่ถือเป็นรายได้สุทธิเติบโตแตะ 787 ล้านบาท ตามการเติบโตของงานประกันสุขภาพ ทั้งแบบรายบุคคล และแบบรายกลุ่ม จากผลบวกข้างต้นกลายเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุน และส่งผลให้ภาพรวมครึ่งแรกของปี 2566 สามารถทำเบี้ยประกันภัยต่อรับเติบโตแตะ 1,666 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยต่อที่ถือเป็นรายได้สุทธิเติบโตแตะ 1,499 ล้านบาท
ส่วนในแง่รายได้จากการลงทุนสุทธิงวดไตรมาส 2/2566 เพิ่มขึ้น 68% จากไตรมาสก่อน อยู่ที่ 24 ล้านบาท
สำหรับค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยรวมอยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสแรกที่ 767 ล้านบาท โดยค่าสินไหมทดแทน (เคลม) อยู่ที่ 540 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนราว 1% ขณะที่ค่าบำเหน็จสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 180 ล้านบาท ส่งผลให้ Combined Ratio (COR) ปรับลดลงเหลือ 96.3% จากไตรมาสแรกอยู่ที่ระดับ 108.2%
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม