เคาะ NER

#ทันหุ้น - NER รายงานงบ 2Q66 มีกำไรสุทธิมากกว่าคาด อยู่ที่ 457.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.6%YoY เนื่องจากปริมาณขายรวมที่เพิ่มขึ้น 46.5%YoY โดยได้รายได้จากการขายต่างประเทศเพิ่ม (คิดเป็น 38% ของยอดขาย) ส่วน product mix มีส่วนของ STR-Mixture เพิ่มขึ้นเป็น 20% ของรายได้ขาย จากปีก่อนที่ระดับ 13% ซึ่งแลกมากับ RSS-Mixture ที่ลดลง ในสัดส่วนเดียวกัน ขณะที่ RSS (ยางแผ่นรมควัน) และ STR20 (ยางแท่ง) ยังมีสัดส่วนเท่าเดิมที่ 15% และ52% ตามลำดับ ด้าน GPM ดีขึ้น จากสต็อกราคายางช่วงปลายปี 65 ที่อยู่ในระดับต่ำ และค่าเงินบาทที่อ่อนค่า จึงเน้นการส่งออกมาขึ้น ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง และ GPM ปรับตัวขึ้นมาเป็น 12.9% จาก 1Q66 ที่ 9.7% อย่างไรก็ดี SG&A ต่อรายดู้งขึ้น มองว่ามาจากต้นทุนค่าขนส่งที่เน้นการส่งออกมากขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายพนักงาน สิ้นงวดอยู่ที่ 3.2% เพิ่มขึ้นจาก 1Q66 ที่ 2.9%

แนวโน้มครึ่งปีหลังคาดหดตัว HoH เนื่องจากคาดการณ์ราคาขายปรับตัวลง และปริมาณขายลดลง เนื่องจากยังมีปัจจัยความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนทำให้ลูกค้าชะลอการสั่งซื้อ จากเดิมที่ผู้บริการตั้งเป้าปริมาณขาย 5 แสนตันในปีนี้ ได้ปรับเป้าลงมาอยู่ที่ 4.8 แสนตัน โดย 1H66 ทำไปแล้ว 2.57 แสนตัน ด้าน GPM คาดย่อตัวลงจาก 2Q66 แต่อย่างไรก็ดีช่วง ต.ค. จะมีการไถ่ถอนหุ้นกู้ 1.3 พันล้านบาท จะทำให้ค่าใช้จ่ายในส่วนของดอกเบี้ยจ่ายลดลงเนื่องจากเป็นการคืนหนี้จากกำไรสะสม รวมถึงการชะลอขายสินค้าในช่วงนี้มองว่าจะกลับมาเป็นบวกได้ในช่วงต้นปีหน้า เนื่องจากคาดว่าราคายางช่วงต้นปีหน้าจะดีขึ้นจากการเกิดปรากฎการณ์เอญนีโญ ทำให้มี GPM ที่สูงขึ้นได้

แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิค ระยะสั้นปรับตัวลงสร้างแนวรับDouble Bottom 4.54 และกลับขึ้นทางเทคนิคฯด้วยแท่งเทียนสัญญาณบวกที่เรียงตัวทำLower Upและผ่านยืนSMA5วันขึ้นมาด้วยแท่งเทียนสีขาวยาว(วานนี้) ระหว่างวันทดสอบผ่านแนวต้านจุดสูงรอบก่อนหน้าและแนวต้านจิตวิทยา 4.78-4.80 แนวโน้มกลับตัวขึ้นรูปแบบแอ่งกระทะขนาดใหญ่ โดยแนวต้านเป้าหมายเพื่อปิด Gap แนวรับสำคัญเน้นยืน 4.70-4.66

คำแนะนำของ ASL

กรณี “มีหุ้น” ถือ/ซื้อเพิ่ม ลุ้นทดสอบแนวต้าน 4.80/4.92/5.20

กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 4.70-4.66 ไม่ควรต่ำกว่า