#CCET #ทันหุ้น -CCET เดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ – ขยายตลาดสู่ธุรกิจที่มีอนาคตทั้ง สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจความปลอดภัยภายในบ้าน ผลิตภัณฑ์ดาวเทียม LEO เตรียมเพิ่มทุนสร้างโรงงานใหม่ในประเทศ 4 แห่ง มูลค่าราว 175 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รองรับการผลิตในอนาคต ชี้แผนเพิ่มทุนยังลดต้นทุนทางการเงินลงได้ 14 ล้านเหรียญ

นายคงสิทธิ์ โจวกิจเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทแคล-คอมพ์อีเล็คโทรนิคส์(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) CCET เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะและเครื่อง POS ซึ่งสนับสนุนการเติบโตของบริษัทได้เป็นอย่างดี แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะมีความไม่แน่นอนและการใช้จ่ายการบริโภคที่ทรงตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ก็ตาม

นอกจากนี้บริษัทยังขยายเข้าสู่ตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ และมีเป้าหมายในการออกผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น ธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจความปลอดภัยภายในบ้าน รวมถึงผลิตภัณฑ์ดาวเทียม LEO(Low-Earth-Orbit) และอื่นๆอีกมากในอนาคต แม้ว่าตลาดอิเล็กทรอนิกส์ในช่วงที่ผ่านมาทั่วโลกแต่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่แต่ บริษัทก็เริ่มมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพิ่มขึ้นโดยเริ่มดำเนินการ ตั้งแต่ปี 2564 ดังนั้นบริษัทยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานโดยรวมของปีนี้

ออกหุ้นเพิ่มทุนสร้างโรงงาน

นอกจากนี้บริษัทได้มีการระดมทุน โดยการออก และจัดสรรหุ้นสามัญ ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท (Right offer) และจะทำการเสนอแผนต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติโครงการดังกล่าว จำนวนเงินที่เพิ่มขึ้นจะนำไปใช้ขยายโรงงานในประเทศเป็นหลัก เนื่องจากกำลังการผลิตของโรงงานในปัจจุบันถึงจุดสูงสุด

ดังนั้นจึงมีแผนเบื้องต้นในการสร้างโรงงาน 4 แห่ง โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 175 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในระยะ 3 ปี เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจในอนาคต ซึ่งการเพิ่มทุนของบริษัทในครั้งนี้จะสามารถปรับปรุงโครงสร้างทางการเงินได้ โดยลดต้นทุนทางการเงินประมาณ 14 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 486 ล้านบาทต่อปี เพื่อลดความไม่แน่นอนและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายการเงินโลกในปัจจุบัน โดยรวมแล้วจะช่วยเพิ่มความมั่นคงทางการเงินของบริษัท

ครึ่งปีแรกกำไรโต 77.79%

ภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรก 2566 สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบทั่วโลกและสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ ส่งผลให้รายได้ของบริษัทอยู่ที่ 2,171.37 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 74,733.92 ล้านบาท ลดลง 4.45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับโครงสร้างภายในบางส่วนพร้อมปรับปรุงระบบการผลิตอัตโนมัติอย่างต่อเนื่องทำให้มีกำไรสุทธิโดยรวมเพิ่มขึ้น 18.74 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเท่ากับ 645.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77.79% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับปัจจุบันบริษัทยังเป็นผู้นำธุรกิจบริการการผลิตผลิตภัณฑ์อิ อิเล็กทรอนิกส์(EMS) ผลิตผลิตภัณฑ์สำหรับแบรนด์สำคัญทั่วโลกเช่น Western Digital, Seagate, Advance Digital Broadcast, Technicolor, Pace, Hewlett Packard, Panasonic และอื่นๆผลิตภัณฑ์ของบริษัทสามารถแบ่งได้เป็น3กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้

1.อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ เช่น ink-jet printers, laser printers, multi-function printers, dot-matrix printers, large format printer, main board, external hard disk drive, NAS และPCBA for hard disk drive, USB pen drives, storage server PCBA และการประกอบ 2. ผลิตภัณฑ์โทรคมนาคมเช่นกล่องรับสัญญาณและหูฟังBluetooth 3.เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น Smart TV, Smart Mirror, Smart POS, Digital Camera PCBA และ Media players

โดย ณ สิ้นไตรมาสที่ มาสที่ 2/2566 บริษัทมียอดขายจากกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปกรณ์โทรคมนาคม 19% อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ 81%