เปิดมุมมอง 3 โบรกฯ ส่องกลยุทธ์ลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้

#SET #ทันหุ้น - บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) มองแนวโน้มตลาดวันนี้ คาด SET Index จะปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลกลงสู่กรอบ 1,400-1,420 จุด ยังคงไร้ปัจจัยบวกเข้ามาหนุน ถ้อยแถลงของประธานเฟดเมื่อคืนยังผลักดันให้ Bond Yield สหรัฐฯพุ่งขึ้นต่อ โดยอายุ 10 ปีอยู่ที่ 4.971% ส่งผลให้ Earning Yield Gap แคบลงและกดดันตลาดหุ้น สถานการณ์สงครามอิสราเอล-ฮามาสยังไม่มีพัฒนาการเชิงบวกและอาจยืดเยื้อ กดดันสินทรัพย์เสี่ยงต่อ ขณะที่เม็ดเงินไหลเข้าน้ำมันและทองคำ 

ส่วนปัจจัยในประเทศ เงินดิจิทัลมีโอกาสเลื่อนและอาจใช้ไม่ทันในเดือน ก.พ. 2024 อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามการประชุมบอร์ดใหญ่วันที่ 24 ต.ค. นี้อีกครั้ง ปัจจัยบวกมีเพียงผลประกอบการกลุ่มแบงก์ที่ออกมาแข็งแกร่งและมีแนวโน้มปรับประมาณการขึ้น เชื่อว่ากลุ่มธนาคารจะเป็นกลุ่มที่ประคองตลาด นอกเหนือจากกลุ่มการแพทย์ สื่อสารฯ ที่คาดกำไร 3Q23 แข็งแรง รวมถึงกลุ่มพลังงานต้น-กลางน้ำที่ได้อานิสงส์ระยะสั้นจากราคาน้ำมันดิบที่ยืนสูง ขณะที่กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค ได้แก่ ค้าปลีก อาหาร ท่องเที่ยว คาดทยอยฟื้นตัวได้ในระยะถัดไปจากเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเร่งตัวตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะเริ่มเห็นผลใน 4Q23-2024 

กลยุทธ์ : เลือกหุ้นที่มีโมเมนตัมกำไร 3Q23 แข็งแกร่งและ PER/PBV ต่ำ // ถือลงทุนระยะยาวหลังสะสมหุ้นเพิ่มไปแล้วบริเวณ 1,450+- จุด

หุ้นเด่นเดือน ต.ค :  AAV, BBL, BDMS, JMT, KCE

หุ้นเด่นวันนี้ : BBL

• แนะนำ “ซื้อ” ปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2024 ที่ 208 บาท บาท

• กำไร 3Q23 ออกมาดีกว่าคาด 6% ที่ 1.13 หมื่นลบ. +1% q-q, +48% y-y หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิและ NIM ที่เพิ่มขึ้นดีกว่าคาดมาก ชดเชยรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าคาดจากรายการ FVTPL ที่ปรับตัวลดลงมากได้ ด้าน cost-to-income ratio ดีกว่าคาดอยู่ที่ 45.1% ลดลงจาก 47.4% ใน 2Q23 

• คุณภาพสินทรัพย์แย่ลงเล็กน้อยแต่ไม่น่ากังวล  NPL ratio ขยับขึ้นเล็กน้อยมาที่ราว 3.00% จาก 2.90% ใน 2Q23 แต่เป็นผลจากนโยบายของธนาคารฯที่ไม่เน้นขายหนี้เหมือนเช่นธนาคารอื่นๆ ส่วน Coverage ratio ลดลงเล็กน้อยมาที่ 283% จาก 287% ยังคงประมาณการผลการดำเนินงานปี 2023-24 +29% y-y และ +8% y-y ตามลำดับ 

• แนวรับ 165//162-160 บาท แนวต้าน 170//175 บาท

**บล.ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดดัชนีฯ ยังมีโอกาสปรับตัวลง ต่างประเทศถูกกดดันทั้งความกังวลดอกเบี้ย และสงครามอิสราเอล โดย Powell กล่าวในการประชุม Economic Club of New York วานนี้(19) ยังส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ย ถึงแม้จะมีสัญญาณการชะลอตัวของเงินเฟ้ออยู่บ้าง และ Bond Yield สหรัฐยังปรับตัวขึ้น อาจจะทำให้มีผลต่อตลาดเอเชียเช้านี้ 

• ความขัดแย้งของตะวันออกกลางยังมีทีท่าไม่ดี หากมีประเทศอื่น ๆ เข้ามาร่วมด้วย และสหรัฐฯ ถูกโยงเข้ามาอยู่ในเกมส์ จะทำให้เหตุการณ์คล้ายกับความขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย ขณะที่ราคาน้ำมันยิ่งปรับตัวขึ้น จะทำให้เป็นลบต่อตลาดหุ้น

• กำไรตลาดใน Q3-23 คาดจะออกมาไม่ดี ซึ่งจะเป็นตัวถ่วงของตลาด วันนี้ส่งงบกลุ่มธนาคารเป็นวันสุดท้าย DAOL คาดการณ์กำไรกลุ่มธนาคารไว้ที่ 5.1 หมื่นล้านบาท + 14.9% YoY; -1.8% QoQ

• การแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ และได้เลื่อนการหารือไปอีกในวันที่ 24 ต.ค.66

• นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย วานนี้ Net Sell 1.8 พันล้านบาท

• ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ คือ ธนาคารกลางจีนประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR)

Strategy

• เราคงกลยุทธ์เดิมไว้ เนื่องจากมีความเสี่ยงในเรื่องอิสราเอล และผลประกอบการ 3Q ที่คาดว่าส่วนใหญ่ ลดลง QoQ จากเศรษฐกิจไทย+โลกที่ชะลอตัว ดัชนีฯ มีโอกาสลงไปถึง 1400 จุด เราแนะนำให้ถือเงินสดให้มากไว้ก่อน ชะลอการซื้อหุ้นจนกว่าจะผ่านช่วงวันหยุดยาวนี้ไป

• เรายังคงรอจังหวะเข้าซื้อหุ้นที่ราคาลงมามาก พื้นฐานดี เมื่อตลาดกลับตัว SCGP, IVL, BH, BDMS ขณะที่หุ้นที่จ่ายปันผลดี ยังคงเป็น PTT, SPALI, DMT

• แม้หุ้น PTTEP จะยังได้ประโยชน์จากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง แต่เรายังแนะนำให้ลงทุนด้วยความระมัดระวัง เพราะดอกเบี้ยสหรัฐฯและเงินเฟ้อ กระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน

• ทิศทางตลาดยังมีความเสี่ยงขาลง โดยเฉพาะดัชนีฯ หากต่ำกว่า 1420 จุด จะกลายเป็นสัญญาณขายรอบใหม่ จึงคงการถือเงินสด 70% ไว้ก่อน เพื่อรอดูทิศทางตลาด และสถานการณ์อิสราเอล-ฮามาส

• พอร์ตหุ้นวันนี้ เราคงหุ้นเดิมไว้ทั้งหมด พอร์ตหุ้นประกอบไปด้วย BEM(10%), KCE(10%), SCB(10%)

Strategy Stock Pick

BEM : (เป้าเชิงกลยุทธ์ 8.50 บาท)  “ไม่ต้องแบกค่าโดยสาร 20 บาท แต่ผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น  ”

• รายได้จากธุรกิจรถไฟฟ้า+ทางด่วน ยังดีตามภาวะเศรษฐกิจและการเดินทาง อาจลดลงบ้างจากช่วงปิดเทอม ทำให้เป็นหุ้นที่ไม่เสี่ยงในสภาวะตลาดแบบนี้ ....  ค่าบริการรถไฟฟ้า 20 บาท มีแนวโน้มที่จะทำให้ปริมาณใช้บริการในระบบรถไฟฟ้าสูงขึ้น

• TTW ที่ BEM ถือหุ้นอยู่ 18.47% ต่อสัญญาขายน้ำประปากับการประปาส่วนภูมิภาค อีกเป็นเวลา 10 ปี มีผลต่อราคาที่เหมาะสมของ BEM ที่จะเพิ่มขึ้นอีก 0.10 บาท และมีผลบวกต่อเงินปันผลรับของ BEM จะได้ด้วย

• BEM รายงานจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าเดือน ก.ย. 2023 ที่ 4.2 แสนเที่ยว/วัน (+22% YoY, +0.1% MoM) โดยตัวเลขเฉลี่ย 9M23 อยู่ที่ 3.8 แสนเที่ยว/วัน (+56% YoY) ขณะที่ผู้ใช้ทางด่วนอยู่ที่ 1.1 ล้านเที่ยว/วัน (+2% YoY, -1% MoM)

Technical:   PLANB, PRM

**บล.คิงส์ฟอร์ด จำกัด ประเมินดัชนี SET ถูกกดดันจาก US Bond Yield ปรับขึ้น ส่งผลให้ Fund Flow ชะลอตัว วางแนวรับดัชนีที่ 1,405 – 1,415 แนวต้าน 1,430 – 1,435 แนะนำซื้อเก็งกำไร PTT,PTTEP,BCP / พักเงินในกลุ่มปลอดภัย ADVANC, INTUCH, BH   

BCP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 43.00 บาท) แนวโน้มกำไร 3Q66 ได้แรงหนุนจากค่าการกลั่นที่ฟื้นตัว หลักๆ จาก Crack Spread กลุ่ม Middle Distillates รวมถึงการบันทึกกำไรจากสต๊อกน้ำมัน ส่วนธุรกิจพลังงานไฟฟ้าจะดีขึ้น QoQ จากการกลับมาเดินเครื่องผลิตของโรงฟ้าพลังน้ำในลาว นอกจากนี้ยังมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ เข้ามาเพิ่มหลังเข้าซื้อเสร็จในเดือน ก.ค.ช่วยชดเชยธุรกิจการตลาดคาดว่าปริมาณขายลดลงเพราะเข้าสู่หน้าฝน ส่วนดีลซื้อ ESSO ปิดดีลแล้วและเริ่มรับรู้ผลประกอบการในเดือน ก.ย.โดยใน 3Q66 จะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการเข้าซื้อกิจการ (ตีมูลค่าที่ดิน เครื่องจักร) ราว 5,000-10,000 ล้านบาท

ADVANC (ซื้อสะสม / ราคาเป้าหมาย 245.0 บาท) กำไรสุทธิงวด 1H66 อยู่ที่ 13,937 ลบ.,+11%YoY ได้แรงหนุนจากรายได้ฝั่งบริการสามารถโตได้ดีโดยเฉพาะรายได้ธุรกิจ Fixed Broadband ขณะที่ในด้านค่าใช้จ่ายสามารถควบคุมได้ดีและได้อานิสงค์การแข่งขันที่ผ่อนคลายลงส่งผลให้ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดลดลงอย่างมีนัยยะ สำหรับการดำเนินงานช่วงถัดไป 2H66 ยังคาด +YoY และดีกว่า 1H66 จากแรงบวก package 5G ช่วยหนุน blended ARPU นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากการเข้าไปลงทุนในTTTBB/JASIF(ยังไม่รวมในประมาณการ) ปัจจุบัน คาดกำไรสุทธิปี66 และ67 ของ ADVANC ที่ 28,454 ลบ. (+9.39%YoY) และ 31,033 ลบ.(+9.06%YoY) 

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1