KS (W)hole in ONE : PTTEP ซื้อเก็งกำไร เคาะราคา 180 บาท

#PTTEP #ทันหุ้น

– วันจันทร์ ติดตามบันทึกการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และผู้ว่าการ Kazuo Ueda มีกำหนดให้สัมภาษณ์ในช่วงเช้าที่เมืองนาโกย่า ต่อด้วยตัวเลข Sentix Investor Confidence ของยุโรปสำหรับเดือน พ.ย. ตลาดคาดที่ -20.7 เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -21.9 ขณะที่ของไทยมีกำหนดรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปหรือ CPI (Consumer Price Index) สำหรับเดือน ต.ค. ตลาดคาดที่ 0.10%YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 0.30% YoY และ ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานหรือ Core CPI สำหรับเดือน ต.ค. ตลาดคาดที่ 0.60% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 0.63%YoY

วันอังคาร ติดตามตัวเลขส่งของจีนสำหรับเดือน ต.ค. ตลาดคาดที่ -5.0% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -6.2% YoY ต่อด้วยผลการประชุมธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 4.1%

วันพุธ ติดตาม ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) Andrew Bailey มีกำหนดให้สัมภาษณ์ในช่วงบ่าย และตัวเลขยอดค้าปลีกของยุโรป (Retail Sales) สำหรับเดือน ก.ย. ตลาดคาดที่ -3.1% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -2.2%YoY

วันพฤหัสบดี ติดตามตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของจีน (Consumer Price Index) สำหรับเดือน ต.ค. ตลาดคาดที่ 0.2% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 0.0% YoY และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐสำหรับสัปดาห์ก่อนหน้า ตลาดคาดที่ 2.20 แสนคน เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 2.17 แสนคน ปิดท้ายด้วยติดตามประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) Powell มีกำหนดให้สัมภาษณ์ในช่วงข้ามคืนในที่ประชุม IMF สำนักงาน Washington DC.

วันศุกร์ ติดตามตัวเลขยอดสินเชื่อใหม่ของทางจีน (New Yuan Loans) สำหรับเดือน ต.ค. ตลาดคาดที่ 1.5 ล้านล้านหยวน เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 2.31 ล้านล้านหยวน ต่อด้วยตัวเลข GDP ของอังกฤษสำหรับไตรมาสที่ 3 ตลาดคาดที่ 0.9% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ 0.5% และปิดท้ายด้วยตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ (UOB Consumer Sentiment) เดือน พ.ย. ตลาดคาดที่ 65.0 เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 63.8

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย : KS เราประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,400-1,440 จุด คาดเคลื่อนไหวแนวโน้มขาขึ้น ตลาดคลายกังวลหลังจากที่เฟดคงอัตราดอกเบี้ย และตีความว่าประธานเฟดส่งสัญญาณว่าอาจยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและนโยบายการเงินที่เข้มงวดรอบ 40 ปี ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี ปรับตัวลดลงจากระดับ 5% มาที่ 4.66% พร้อมกับธนาคารกลางอย่าง ECB และ BOE ที่คงอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกรีบาวน์ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทย 10 ปี ลดลงจากระดับ 3.4% มาที่ 3.2% ซึ่งหากมีการปรับตัวลดลงต่อจะเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นโดยเฉพาะกลุ่มที่มีความอ่อนไหวจากอัตราดอกเบี้ย อาทิ กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มการเงิน รวมถึงราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น คลายกังวลว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะทำให้เศรษฐกิจและการใช้น้ำมันชะลอตัวลง เป็นบวกกับกลุ่มพลังงาน

ประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้แนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 1,400 – 1,440 จุด มองในทิศทางบวก ธนาคารกลาง FED ECB BOE คงอัตราดอกเบี้ย ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเริ่มปรับลดลง ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น คลายกังวลเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง

Top Pick : PTTEP (ราคาพื้นฐาน 180 บาท)ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นจากการที่เฟดคงอัตราดอกเบี้ย คลายกังวลว่าดอกเบี้ยที่สูงจะทำให้เศรษฐกิจและการใช้น้ำมันชะลอตัวลง โดยหากราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 5 ดอลลาร์ต่อปี จะเพิ่มกำไรสุทธิประมาณ 4.9 พันลบ./ปี และมูลค่าตามวิธีคิดลดเงินสด (DCF) ที่ 7 บาท/หุ้น

Top Pick : BGRIM (ราคาพื้นฐาน 31.5 บาท) กลุ่มโรงไฟฟ้าได้รับอานิสงส์เชิงบวก จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเริ่มปรับลดลง เราคาดว่า BGRIM จะรายงานงบการเงินไตรมาส 3/2566 ใน วันที่ 13 พ.ย. 56 ด้วยกำไรสุทธิ 346 ลบ. พลิกเป็นกำไร YoY แต่ลดลง 49% QoQ หากไม่รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่คาดไว้จำนวน 297 ลบ. จากการอ่อนค่าของเงินบาท คาดกำไรปกติอยู่ที่ 643 ลบ.