JASIF ดีขึ้น ได้ผู้สนับสนุนใหม่ บล.กสิกรฯเพิ่มเป้าเป็น 6.95 บ.

#JASIF #ทันหุ้น - คณะกรรมการ กสทช. อนุมัติข้อเสนอเข้าเทคโอเวอร์ TTTBB ของ ADVANC ส่งผลให้ผู้สนับสนุนใหม่ของ JASIF จะเปลี่ยนจาก JAS เป็น ADVANC บล.กสิกรไทยมองว่า JASIF น่าจะได้ประโยชน์จากข้อตกลงการกู้ยืมที่ดีขึ้นและความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ที่ลดลง ส่งผลให้อัตราตอบแทนสูงขึ้น รวมถึงราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้น 12%

เพิ่มคำแนะนำเป็น "ซื้อ" จาก 1) ราคา JASIF ต่ำกว่าต้นทุนการถือครองของ GULF และ ADVANC และ 2) เงื่อนไขการกู้ยืมที่ดีขึ้นจาก BBL เพิ่มเป้าจาก 6.20 บาท เป็น 6.95 บาท

Investment Highlights

มีอะไรใหม่? เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ย. คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้อนุมัติข้อเสนอของADVANC ที่จะเข้าเทคโอเวอร์บริษัท ทริปเปิ้ล ที่ บรอดแบนด์ จำกัด (TTTBB) ซึ่งเป็นบริษัท ในเครือของ JAS

อะไรต่อไป? สำนักงาน กสทช.จะแจ้งมติของคณะกรรมการให้ ADVANC ทราบเป็นเอกสารภายในสัปดาห์นี้ หากไม่มีข้อคัดค้านจากฝ่ายที่ค้าน คาดว่าบอร์ดบริหารของ ADVANC น่าจะดำเนินการซื้อกิจการให้แล้วเสร็จได้ภายใน 2 สัปดาห์

ข้อสรุป ADVANC เสนอซื้อหุ้น TTTBB จำนวน 100% มูลค่า 1.95 หมื่นลบ. และสัดส่วน 19% ของ JASIF ที่ adjusted value 1.292 หมื่นลบ. หลังหักเงินปันผลจ่ายของ JASIF ในช่วง 5 ไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งหมายความว่าต้นทุนการเข้าซื้อกิจการที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่ 7.58 บาทต่อหน่วย (จากเดิม 8.50 บาท)

มุมมองของเราแม้ว่าความกังวลของเราเกี่ยวกับความต่อเนื่องทางธุรกิจของ JASIF ภายหลังสิ้นสุดสัญญาเช่าในปี 2581 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่เรามีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อความเสี่ยง (risk profile ) ของ JASIF จากความแข็งแกร่งทางการเงินของ ADVANC ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่รายใหม่ของกองทุน เราเชื่อว่าผู้จัดการกองทุน (BBLAM) จะกลับไปเจรจากับผู้ให้กู้ (BBL) อีกครั้งเพื่อปรับอัตราการกู้มเพื่อสะท้อนความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ที่ลดลงของผู้ให้สนับสนุนและขยายกำหนดการชำระหนี้ให้สะท้อสัญญาเช่าที่มีระยะเวลายาวนานขึ้นจากปี 2575 ไปเป็น 2581

ปรับประมาณการกำไร เพื่อสะท้อนสมมติฐานเงินเฟ้อใหม่ของเราที่ 1.6% และ 2.6% ในปี2566-67 (2.9% และ 2.4 ก่อนหน้านี้) เราจึงลดประมาณการ core EPU ของเราลง 3.3% และ 2.8% อย่างไรก็ตาม บล.กสิกรไทยปรับสมมติฐานอัตราผลตอบแทนต่อหน่วยปี 2566/67/68 ขึ้น 3.2%/3.6%/3.8% เนื่องจากเรารวมผลกระทบของค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลงและการชำระหนี้ที่ผ่อนคลายมากขึ้น ประมาณการเงินตอบแทนต่อหน่วย (DPU) ของเราสะท้อนอัตราผลตอบแทนต่อปีที่ 12.3%/10.6%/9.7%

Valuation and Recommendation

บล.กสิกรไทยแนะนำ "ซื้อ" เพิ่มคำแนะนำสำหรับ JASIF จาก "ถือ" เป็น "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ที่ 6.95 บาท ปัจจัยเพิ่มตัวคูณมูลค่าหุ้น ได้แก่ 1) ราคาตลาดของ JASIF ที่ 6.15 บาท ซึ่งต่ำกว่าต้นทุนการลงทุนของ GULF ที่ 6.90 บาท และต้นทุนการเข้าซื้อกิจการที่ปรับปรุงแล้วของ ADVANC ที่ 7.58 บาท และ 2) upside ที่อาจเกิดขึ้นจากการกระจายเงินสดของ JASIF ตามเงื่อนไขการกู้ยืมที่ดีขึ้นจาก BBL ขณะที่ภายใต้สมมติฐานใหม่ของเรา JASIF น่าจะนำเสนอการกระจายเงินสดสะสมรวมจำนวน 9.90 บาทในช่วงไตรมาส 3/2566 ถึงไตรมาส 4/2581 ซึ่งคิดเป็น market IRR ที่ 6%

มูลค่าหุ้น บล.กสิกรไทยปรับราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 อิงด้วยวิธี DCF ขึ้น 12% จาก 6.20 บาท เป็น 6.95 บาท เนื่องจากเรารวมข้อตกลงซื้อกิจการของ ADVANC ที่เสร็จสมบูรณ์ในปี 2566 แต่ยังคงตรึงอยู่กับสถานการณ์ no perpetuity เราใช้ WACC ใหม่ที่ 5.8% สำหรับกระแสเงินสดในช่วง 15 ปี ลดลงจาก 8.1 ก่อนหน้านี้ เราลดต้นทุนหนี้ของ JASIF จาก 6.9% เป็น 6.6% และคาดว่า adjusted beta จะอยู่ที่ 0.34 ลดลงจาก 0.67 ก่อนหน้านี้ หาก ADVANC มีการต่อสัญญาเช่าเพิ่มเติมจากสิ้นปี 2581 ที่อัตราค่าเช่า 178 บาท ต่อคอร์กม. ต่อเดือน มูลค่ายุติธรรมสินปี 2567 ของเราจะอยู่ที่ 8.65 บาท

Downside risk ได้แก่ 1) ไม่มีเงื่อนไขการกู้มที่ดีขึ้นจาก BBL 2) ต้นทุนการเข้าซื้อกิจการของ ADVANC ที่ต่ำกว่าคาด และ 3) ADVANC ประกาศขายและการเช่ากลับ (leaseback)ช่องทางการจัดหาเงินทุนที่ไม่ใช่ JASIF