#ทันหุ้น-วันจันทร์ ติดตามตัวเลขการคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภค ตลาดคาดที่ 3.8% เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 3.6% ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปิดทำการเนื่องจากวันหยุดชดเชยวันรัฐธรรมนูญ

วันอังคาร ติดตามตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตของญี่ปุ่น ตลาดคาด 0.6% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 0.8%  ต่อด้วยอัตราการว่างงานของสหราชอาณาจักร ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 4.3% เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 4.2% และที่สำคัญตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐCPI ตลาดคาดไว้ที่ 3.1% เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 3.2% ส่วนเงินเฟ้อขั้นพื้นฐาน Core CPI ตลาดคาดไว้ที่ 4.0% เท่ากับเดือนก่อนหน้า

วันพุธ ติดตามตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยุโรป ตลาดคาด -6.0% YoY เทียบกันเดือนก่อนหน้าที่ -6.9% หากดูเป็นรายเดือนตลาดคาด -0.7% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -1.1% ต่อด้วยดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐ ตลาดคาดไว้ที่ 0.1% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -0.5% และการประมูลพันธบัตรรัฐบาล 30 ปี ของสหรัฐ

วันพฤหัสบดี ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ FED ตลาดคาดไว้ว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 5.25 – 5.50% และมุมมองเศรษฐกิจในอนาคต รวมถึงการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ BOE ตลาดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 5.25% และการประชุมธนาคารกลางยุโรป ECB ตลาดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากไว้ที่ 4.0%

วันศุกร์ ติดตามตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของญี่ปุ่นเบื้องต้น ตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ 49.5 เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 48.3 และภาคบริการตลาดคาดไว้ที่ 52 เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 50.8 รวมถึงผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน ตลาดคาดขยายตัวที่ 5.8% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 4.6% และยอดค้าปลีกของจีน ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นที่ 11% เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 7.6% และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของสหรัฐ จัดทำโดย S&P Global เบื้องต้นคาดไว้ที่ 49.2 เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 49.4

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย : KS เราประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,370-1,410 จุด คาดเคลื่อนไหวออกด้านข้าง จับตาราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกหากทรงตัวหรือเพิ่มขึ้น จะส่งผลดีกับหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่หากปรับลดลงจะมีแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานออกมากดดันตลาด ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย 10 ปี ปรับลดลงเล็กน้อยที่ 2.86% ตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี ที่ปรับลดลงมาที่ 4.16% จากข้อมูลการตลาดแรงงานทั้ง JOTs ที่ลดลง การจ้างงานลดลง ความคาดหวังของเงินเฟ้อลดลง มุมมองของตลาดคาดว่า ECB อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยก่อน FED จากเงินเฟ้อที่ลดลงเร็วกว่าในช่วงหลังและ GDP ไตรมาส 3 ติดลบที่ -0.1% QoQ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยอาจจะมีแรงเข้าซื้อหุ้นดักกองทุน TESG ที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท หลังปิด IPO ในสัปดาห์ที่ 3 เดือนนี้ และยอดซื้อกองทุนทั้ง SSF, RMF จนถึงสิ้นปี แนะนำลงทุนในหุ้นที่มี ESG Rating ดี รับกองทุนลดหย่อนภาษี TESG เดือนนี้

ประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้แนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 1,370 – 1,410 จุด มองออกด้านข้าง ติดตามราคาน้ำมันดิบตลาดโลก ซึ่งมีผลต่อหุ้นกลุ่มพลังงานและมีผลต่อ SET Index เลือกหุ้นรับกองทุน TESG, SSF, RMF เดือนนี้

Top pick: AOT (ราคาพื้นฐาน 76.63 บาท) หุ้นใน SET50 ที่น่าจะเป็นเป้าหมายการลงทุนของกองทุนลดหย่อนภาษี TESG เดือนนี้ ซึ่งบริษัทได้รับ SET ESG Rating ปี 2566 ระดับ A คาดกำไร 1QFY24จะยังคงแข็งแกร่งจาก High tourism season มีแผนปรับเพิ่ม PSC ตั้งแต่ 1 เม.ย. 2024ของ international และ domestic passengers จาก 700 และ 100 บาท เป็น 730 และ 130 บาทจะส่งผลให้ประมาณการกำไรปี 2567-68 เพิ่มขึ้น 2.5-4.5%

GPSC (ราคาพื้นฐาน 53.00 บาท) หุ้นใน SET50 ที่น่าจะเป็นเป้าหมายการลงทุนของกองทุนลดหย่อนภาษี TESG เดือนนี้ ซึ่งบริษัทได้รับ SET ESG Rating ปี 2566 ระดับ AA นอกจากนี้ยังได้รับผลบวกจากการที่ กกพ. มีมติปรับขึ้นค่าไฟเฉลี่ยที่ 4.68 บาท/หน่วย งวดเดือน ม.ค. - เม.ย. 2567 แม้ว่ารัฐบาลอยากให้ปรับลดลงมา แต่เรามองว่าน่าจะสูงกว่าปัจจุบันที่ 3.99 บาท/หน่วย รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย 10 ปีปรับลดลงที่ 2.84% เป็นแรงหนุน sentiment กลุ่มโรงไฟฟ้า

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1