> SET >

04 มกราคม 2024 เวลา 09:30 น.

2567 ปีแห่งความหวัง บล.ดีบีเอสฯแนะนำ 10 หุ้นเด่น

#หุ้นเด่น #ทันหุ้น - บล.ดีบีเอสวิคเคอร์สแนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นสำหรับปี 2567 คาดว่า GDP ไทยจะเร่งตัวขึ้นจาก 2.3% ในปี 2566 เป็น 3.3% ในปี 2567 - ไม่รวมกระเป๋าเงินดิจิทัล  

ผลประกอบการของบริษัทจะเพิ่มขึ้นจากทรงตัวในปี 2566 เพิ่มขึ้น +11% ในปี 2567

ประวัติศาสตร์ชี้ให้เห็นว่าผลตอบแทนของ SET หลังจากปีไม่ดี ปีถัดไปจะเป็นบวก

เป้าหมาย SET Index ปลายปี 2567 ที่ 1,640 อ้างอิง Forward PE ที่ 16 เท่า

แนะนำ 5 ธีมหลักและหุ้นน่าสนใจ 10 หลักทรัพย์ในปี 2567


ดัชนี SET Index ของไทยร่วงลง 15% ในปี 2566 ซึ่งเป็นหนึ่งในดัชนีที่เลวร้ายที่สุดในภูมิภาค เป็นผลมาจาก (1) ความไม่แน่นอนทางการเมือง ใน 1123, (2) เรื่องอื้อฉาวทางบัญชีและการผิดนัดชำระหนี้ (3) อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่พุ่งสูงขึ้นนำไปสู่เงินทุนไหลออก (4) การขายอย่างหนักโดยนักลงทุนต่างชาติ (5) ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น และ (6) GDP ที่อ่อนแอกว่าคาดในไตรมาส 2/66 และ ไตรมาส 3/66 ส่งผลให้ตลาดทยอยปรับประมาณการ GDP ลง และนักลงทุนต่างชาติทยอยขายสุทธิ 1.92 แสนล้านบาทในปี 2566 หลังจากเป็นผู้ซื้อสุทธิ 1.969 แสนล้านบาทในปี 2565


คาด SET จะแข็งแกร่งขึ้นในปี 2567 โดยตลาดได้รับแรงหนุน จาก (1) เร่งการเติบโตของ GDP จาก 2.3% ในปี 2566 เป็น 3.3% ในปี 2567 (ไม่รวมกระเป๋าเงินดิจิทัลที่อาจเพิ่มขึ้น 0.6% ของ GDP ในปี 2567); (2) ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัท คาดว่ากำไรจะเติบโต 11% ในปี 2567 (เทียบกับทรงตัวในปี 2566); และ (3) มูลหุ้นน่าสนใจ

ปัจจุบันซื้อขายที่ PE ปี 2567 ที่ 14.8x (เทียบกับค่าเฉลี่ย PE ในอดีตที่ 16x) นอกจากนี้หากเราดูประวัติศาสตร์ในอดีตตั้งแต่ปี 2541 ไม่ปีไหนเลยที่ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวลงต่อเนื่อง 2 ปีติดต่อกัน SET Index ให้ผลตอบแทนเป็นบวกมาโดยตลอดหลังจากปีก่อนไม่ดี โดยปี 2566ถือว่าเป็นปีที่ไม่ดีสำหรับตลาดไทยปรับตัวลง -15.2%และในปีนียังมีปัจจัยบวกต่างๆหนุน เราจึงคาดว่าแนวโน้มปี 2567 จะเป็นปีที่ดีขึ้น บล.ดีบีเอสฯประเมินเป้าหมาย SET Index สิ้นปี 2567 อยู่ที่ 1,640 คำนวณจาก 16 เท่า ของ Forward PE ที่เท่ากับค่าเฉลี่ยในอดีต ทำให้ที่ราคาปัจจุบันยังมีอัพไซด์อีก 15.8%


หุ้นเด่น บล.ดีบีเอสฯประเมินว่ามี 5 ธีมหลักสำหรับตลาด และ 10 หุ้นสำหรับปี 2567 ดังนี้

1. ธีมหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แนะนำ Com 7 (COM7), ซีพี

ออลล์ (CPALL) เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) และธนาคารกรุงไทย (KTB)

2. ธีมการฟื้นตัวของ FDI ตัวเลือกหลักของเรา คือ อมตะ คอร์ปอเรชั่น (AMATA), ซึ่งมี

การดำเนินงานในประเทศไทยและเวียดนาม ควรจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการย้าย

โรงงานจากจีน

3. ธีมการการท่องเที่ยวฟื้นตัว เราชอบ Airports of Thailand (AOT) บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) และสยามเวลเนสกรุ๊ป (SPA)

4. ธีมอัตราดอกเบี้ยพีคก่อนลง เราชอบ เมืองไทยแคปปิตอล (MTC)

5. ธีมการเติบโตแข็งแกร่ง/เงินสดสุทธิ/ผลตอบแทนที่เหมาะสม เราชอบ TQM Alpha

(TQM)




รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X