> SET > TEGH

05 กุมภาพันธ์ 2024 เวลา 11:08 น.

TEGH ลุ้นยอดขายปี 67 ทำออลไทม์ไฮ ออเดอร์ยุโรป-จีน-อินเดียพุ่ง

#TEGH #ทันหุ้น-TEGH  เปิดแผนธุรกิจปี 2567 แนวโน้มยอดขายมีลุ้นออลไทม์ไฮ เหตุยางแท่งได้ประโยชน์เต็มเหนี่ยวจากกฎหมาย EUDR รวมทั้งดีมานด์จากลูกค้ายุโรป และจีน พุ่งสูง พ่วงกับแผนขยายตลาดอินเดีย ผู้บริหารลั่น พร้อมเติบโตทุกสายธุรกิจแบบเต็มพิกัด ทั้งยางธรรมชาติ น้ำมันปาล์ม และพลังงานทดแทน บนพื้นฐานความมุ่งมั่นการทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน ตั้งเป้า Net Zero ปี 2573 


นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH ผู้ผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติและน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ในภาคตะวันออก และผู้นำด้านการผลิตพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์แบบครบวงจร ที่นำพลังงานสะอาดมาใช้ในกระบวนการผลิต เปิดเผยว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในปี 2567 ยังมีทิศทางที่สดใส โดยเฉพาะธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแท่ง มีโอกาสที่ยอดขายจะทำสถิติสูงสุดใหม่ (All Time High) ในปีนี้ จากปริมาณขายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 20% และราคายางธรรมชาติปรับตัวสูงขึ้น

 

โดย TEGH มียอดการผลิตและจำหน่ายยางแท่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาโดยตลอด และหากดูยอดขายในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 ที่ผ่านมา พบว่ามียอดขายยางแท่ง 150,506 ตัน เพิ่มขึ้น 7% จากปี 2565 โดยทั้งปี 2566 มียอดขายยางแท่ง รวมกว่า 200,000 ตัน 

 

ขณะเดียวกัน TEGH จะได้รับผลดีจากกรณีที่สหภาพยุโรป บังคับใช้กฎหมาย EUDR (EU Deforestation-free Products Regulation) ซึ่งเป็นกฎหมายว่าด้วยสินค้าต้องผลิตจากแหล่งวัตถุดิบที่ไม่มีการตัดไม้ทำลายป่า ไม่อยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ และพื้นที่ป่า และต้องมีเอกสารสิทธิการใช้ที่ดินถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงการจัดการสวนยางต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนโดยรอบ 

 

“TEGH คาดการณ์ว่าปีนี้ มีโอกาสที่ยอดขายยางแท่งจะทำสถิติสูงสุดแบบ ออล ไทม์ ไฮ เพราะภาพรวมเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวทำให้ราคายางธรรมชาติปรับตัวสูงขึ้น ดีมานด์จากยุโรปและจีนกลับมา รวมทั้งเราได้ขยายตลาดไปยังอินเดีย ที่สำคัญ เรายังได้รับผลเชิงบวกจากการบังคับใช้กฎหมาย EUDR  เพราะเรามีการเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้มานานแล้ว ลูกค้าก็ให้ความสนใจ ติดต่อเข้ามาขอเจรจาทำสัญญาซื้อขายสินค้ายางแท่งเกรด EUDR แล้ว ทั้งในโซนยุโรปและเอเซีย ซึ่งน่าจะทำให้ยอดขายยางแท่งของเรามีจำนวนเพิ่มมากขึ้น” นางสาวสินีนุช กล่าว


สำหรับธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ มีแนวโน้มที่ดีเช่นกัน เนื่องจาก TEGH ได้ปรับปรุงกระบวนการผลิต ซ่อมบำรุงเครื่องจักร ติดตั้งหม้อต้มไอน้ำ (Boiler) ลูกใหม่ ทำให้ประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้น และจะติดตั้งหม้อนึ่งปาล์ม (Sterilizer) เพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตน้ำมันปาล์มดิบของเราเพิ่มขึ้นอีก 50%  ภายในปี 2569 

 

ขณะที่ธุรกิจด้านพลังงานทดแทนและบริหารจัดการกากอินทรีย์ ประสบความสำเร็จจากโครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพเฟสที่ 1 ที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วเมื่อกลางปีที่ผ่านมา คาดว่าจะสามารถ COD เฟสที่ 2 ได้ในปีนี้ ส่งผลให้ TEGH สามารถรับบริหารจัดการกากอินทรีย์เพิ่มขึ้นอีกวันละ 700 ตัน ผลิตก๊าซชีวภาพได้เพิ่มขึ้นวันละ 70,000 ลูกบาศก์เมตร รวมทั้งปัจจุบัน เริ่มมีรายได้จากการขาย Carbon Credit เข้ามาเสริมอีกทางหนึ่งด้วย 

 

ในปี 2567 กลุ่ม TEGH ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมให้กับนักลงทุน ควบคู่กับการดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2573


รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1


จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X