IRPC ปี 66 ขาดทุน 2.92 พันล้าน ลดลง33% ทุ่มงบลงทุนปีนี้ 6 พันล้าน

#IRPC# ทันหุ้น - IRPC ไตรมาส 4/66 ขาดทุนลดลง 52% เหตุ ปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น หนุนงวดปี 66 ขาดทุน 2.92 พันล้าน ลดลง33% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุน 4.36 พันล้าน ด้านบอร์ดอนุมัติงบลงทุน 5 ปี (67-71) 1.38 หมื่นล้าน แบ่งเป็นปี 6 พันล้าน

นาย พิจินต์ อภิวันทนาพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บัญชีและการเงิน บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า ไตรมาส4 ปี 2566 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 3,417 ล้านบาท ลดลง 52% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 7,149 ล้านบาท เนื่องจาก บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสุทธิที่เพิ่มขึ้น 20,215 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 37 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากปริมาณขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 53 จากการกลับมาผลิตตามปกติหลังจากไตรมาส 4/2565 บริษัทฯ บริหารจัดการการผลิตและการขายให้ สอดคล้องการปิดซ่อมบำรุงใหญ่โรงกลั่นน้ำนตามแผน (Major Turnaround) ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยลดลงร้อยละ 16 ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง

สำหรับธุรกิจปิโตรเลียมมี Market GRM ที่ลดลงจากส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซล เทียบกับราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ ขณะที่ต้นทุน Crude Premium ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญนอกจากนี้ ธุรกิจปิโตรเคมี มี Market PTF ที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ กลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภคมีกำไร ขั้นต้นค่อนข้างคงที่ส่งผลให้บริษัทมี Market GIM เพิ่มขึ้นร้อยละ 4

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ บันทึก Net Inventory Loss น้อยกว่ำไตรมำส 4/2565 ที่ร้อยละ 71 ส่งผลให้บริษัทมี Accounting GIM อยู่ที่ 733 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่ขาดทุนจาก Accounting GIM จำนวน 4,207 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทฯ มี EBITDA ติดลบน้อยกว่าไตรมาส 4/2565 ที่ร้อยละ 71 ซึ่งในไตรมาส 4/2566 ผลการดำเนินงานต่ำกว่าไตรมาส 4/2565 คิดเป็นร้อยละ 52

ดังนั้นทำให้ผลการดำเนินงานปี 2566 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 2,923.16 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 4,363.61 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น 16% ขณะที่มีผลขาดทุนสต็อกน้ำมัน 2,488 ล้านบาท หรือ 1.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่อบาร์เรล ขณะที่มีการกลับรายการปรับลดมูลค่าสินตค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่ได้รับ 1,026 ล้านบาท หรือ 0.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่อบาร์เรล

อย่างไรก็ตามบริษัทบันทึกกำไรจากการบริหารความเสี่ยงน้ำมันที่เกิดขึ้นจริง (Realized Oil Hedging) 339 ล้านบาท หรือ 0.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากรายการดังกล่าวส่งผลให้ บริษัทฯ บันทึกขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันสุทธิ (Net Inventory Loss) รวม 1,123 ล้านบาท หรือ 0.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขั้นต้นจาการผลิตทางบัญชี (Accounting GIM) จำนวน 18,221 ล้านบาท 7.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากปีก่อน

นอกจากนี้มีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จำนวน 5,754 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,767 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 44 โดยในปี 2566 มีกำไรจากการด้อยค่าและตัดจำหน่ายทรัพย์สินจำนวน 822 ล้านบาท โดยหลักมาจากการหลับรายการด้อยค่าพัสดุคงคลัง

สำหรับปี 2567 คาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ อยู่ในช่วง 75-85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ใกล้เคียงกับราคาเฉลี่ยทั้งปี 2566 ที่ประมาณ 82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ด้านคณะกรรมการได้มีมติอนุมัติแผนการลงทุน 5 ปี (ปี 2567-2571) วงเงินรวม 13,888 ล้านบาท แบ่งเป็น ปี 2567 มูลค่า 6,005 ล้านบาท ขณะที่ปี 2568 อยู่ที่ 1,082 ล้านบาท ปี 2569 มูลค่า 1,210 ล้านบาท ปี 2570 มูลค่า 3,262 ล้านบาท และปี 2571 มูลค่า 2,329 ล้านบาท