23 หุ้นเด็ดคัดมาแล้ว!

#ทันหุ้น - สวัสดีครับท่านนักลงทุน SET ฟื้นตัวขึ้นมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนก.พ. จาก sentiment บวก หลังจีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (ปรับลด RRR ตั้งแต่ 5 ก.พ.) และมีแผนจัดตั้งกองทุนเพื่อพยุงตลาดหุ้น หนุน SET ขึ้นมาเคลื่อนไหวบริเวณ 1400 จุด อย่างไรก็ตาม ดัชนียังยืนเหนือบริเวณดังกล่าวไม่ได้ และเผชิญแรงขายอีกครั้งให้เริ่มอ่อนตัวลง จากตลาดที่ดูยังขาดปัจจัยหนุน และอยู่ในภาวะเปราะบาง หลังเงินเฟ้อไทยและจีน ม.ค. มีแนวโน้มหดตัว, กนง. มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา และยังไม่มีการส่งสัญญาณในการลดดอกเบี้ย รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่ง ทำให้ตลาดลดการคาดการณ์ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. ไปอยู่ที่ในการประชุมเดือนพ.ค. แทน 

นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจไทยที่การฟื้นตัวเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป และการเติบโตอยู่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับในภูมิภาค ส่งผลให้การไหลเข้าของทิศทาง fund flow ขาดความต่อเนื่อง แต่กลับมีแรงสลับขายออกมาเป็นระยะ ทั้งนี้ ปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ทำให้คาด SET ยังมี upside ที่จำกัด หรือการขึ้นยืนเหนือ 1400 จุด ยังทำได้ยาก ในทางกลับกัน ต้องระวังแรงขายทำกำไร จากดัชนีที่ฟื้นตัวมาก่อนหน้านี้ และอีกปัจจัยที่มีโอกาสสร้าง sentiment ลบ ต่อดัชนีได้ ให้ระวังตลาดหุ้นสหรัฐที่มีโอกาสปรับฐาน หลังปรับขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วง Q4 ปีก่อน 

ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงเน้น “ตั้งรับ สะสมหุ้นพื้นฐาน ในช่วงดัชนีอ่อนตัว” ใน 3 ธีมหลัก ดังนี้ 

1) นักลงทุนที่กังวลตลาดผันผวนเชิงลบแนะนำลงทุนในหุ้นตั้งรับ ซึ่งคาดจะสามารถชนะตลาดได้ โดยมี Beta ต่ำกว่า 1, ราคาหุ้นปรับตัว YTD ดีกว่า SET และยังมีผลการดำเนินงานแข็งแกร่งในปี 2567 เลือก ADVANC AOT BDMS TISCO 

2) นักลงทุนระยะสั้น (3-4 เดือน) ที่ต้องการลงทุนในหุ้นปันผลคุณภาพดีในเทศกาลจ่ายเงินปันผลและขึ้น XD ในช่วง มี.ค.–พ.ค. นี้ โดยคาดให้ Div. Yield ปี 66 (หลังหักจ่ายระหว่างกาลแล้ว) เกิน 5% นอกจากนี้ ปี 2567 คาดผลประกอบการยังแข็งแกร่ง และราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside เกิน 20% จากราคาเป้าหมายของ InnovestX เลือก AP BCP KTB ขณะที่นักลงทุนระยะยาวที่ต้องการลงทุนในหุ้นปันผลคุณภาพดีเพื่อสร้างกระแสเงินสดที่ดีต่อเนื่อง โดยคาดให้ Div. Yield ปี 67 เกิน 5% และสูงกว่าค่าเฉลี่ย Div. Yield 5 ปีย้อนหลัง (ปี 2561-2565) และปี 2567 คาดผลประกอบการยังแข็งแกร่ง และมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง อีกทั้ง Valuation ไม่แพง โดยมี PER และ PBV ปี 2567 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี เลือก AH AP BCP KTB PTT TTB 

3) นักลงทุนระยะยาวแนะนำลงทุนสะสมแบบ DCA เนื่องจากมองเป็นจังหวะที่ดีที่สุด หลัง SET ปรับลงแรงจนความเสี่ยงลดลงไปมาก และราคาหุ้นอยู่ในระดับ Undervalue มาก โดยเลือก BBL BDMS BEM CPALL PTT และ SCC ซึ่งเป็นหุ้น SET100 ซึ่งเป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม และมี ESG Ratings ระดับ AAA/AA, Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี และผลการดำเนินงานยังแข็งแกร่ง ส่วนระยะสั้นแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดผลประกอบการ 4Q66 อาจอ่อนแอกว่าตลาดคาด ได้แก่ BJC HMPRO GLOBAL ZEN CPF BTG AU AWC SIRI...แล้วพบกันใหม่ในคอลัมน์ฉบับหน้า ด้วยรัก และหวังดี

โดย "เอกภาวิน สุนทราภิชาติ" นักกลยุทธ์อาวุโสตลาดหุ้นและตลาดอนุพันธ์ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1