#BKI #ทันหุ้น BKI งบแรงพลิกกำไรตามคาดในปี 66 หลังไม่มีโควิดกวนใจ กำไรทะยานกว่า 500% ที่ 3,043.8 ล้านบาท พร้อมอนุมัติปันผลอีก 5.50 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่าย 3 พ.ค.นี้ ขึ้น XD  7 มี.ค.67 พร้อมเดินหน้าสู่ โฮลดิ้งส์ “BKIH” ตามแผน เสร็จไตรมาส 2 ปีนี้ ขยายโอกาสธุรกิจ

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI รายงานตลาดหลักทรัพย์สำหรับผลการดำเนินงาน ปี 2566 โดยบริษัทมีกำไรสุทธิ 3,043.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,682.2 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 576.8% เมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิ 638.4 ล้านบาท

โดยสาเหตุการเพิ่มขึ้นของกำไรมาจาก กำไรจากการรับประกันภัยอยู่ที่ 2,070.1 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปี 2565 ที่ขาดทุนจากการรับประกันภัย 6,999.8 ล้านบาท เนื่องจากมีการจ่ายค่าสินไหมทดแทน COVID-19 เมื่อปี 2565 ดังนั้นในงวดปี 2566 บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น 9,069.9 ล้านบาท คิดเป็นอัตรา 129.6%

สำหรับเบี้ยประกันภัย ตามงบการดำเนินงานสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2566 บริษัทมีเบี้ยรับรวมอยู่ที่ 29,915.70 ล้านบาท โตราว 12% จากปี 2565 ที่มีเบี้ยรับรวม 26,676.27 ล้านบาท โดยแยกเป็นเบี้ยประกันรถ 12,478.40 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ด 14,457.07 ล้านบาท ประกันภัยทางทะเลและขนส่ง 875.85 ล้านบาท และเบี้ยประกันอัคคีภัย 2,104.37 ล้านบาท

ในส่วนของกำไรจากการลงทุนสุทธิอยู่ที่ 1,299.5 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปี 2565 ซึ่งมีจำนวน 6,254.6 ล้านบาท ลดลง 4,955.1 ล้านบาท คิดเป็นอัตราลดลง 79.2%

ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 325.8 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปีก่อน ซึ่งมีรายได้ภาษีเงินได้ 106.8 ล้านบาท ส่งผลให้

ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้เพิ่มขึ้น 432.6 ล้านบาท คิดเป็น 405.0%  ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของกำไรจากการรับ

ประกันภัย

นอกจากนี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นยังมีมติอนุุมัติ จ่ายปันผลในอัตรา 5.50 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับรับสิทธิปันผล (XD) 7 มีนาคม 2567 สำหรับงบปี 2566 

บริษัทมีการจ่ายปันผลระหว่างการไปก่อนหน้านี้แล้ว 3 ครั้ง โดยมิติที่ประชุมวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 อนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลในอัตรา 3.75 บาทต่อหุ้น สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปี 2566 มิติที่ประชุมวันที่ 11 สิงหาคม 2566 อนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลในอัตรา 3.75 บาทต่อหุ้น สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2566 และ มิติที่ประชุมวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 อนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลในอัตรา 3.75 บาทต่อหุ้น สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2566 รวมจ่ายปันผลสำหรับงบปี 2566 ที่ 16.75 บาท

ทั้งนี้ BKI อยู่ระหว่างแผนการปรับโครงสร้างของบริษัทโดยการจัดตั้ง บริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BKIH เพื่อประกอบธุรกิจเป็นบริษัทลงทุน (Holding Company) ในธุรกิจอื่นๆ ทั้งที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัยที่เป็นธุรกิจหลัก และที่นอกเหนือจากธุรกิจประกันภัย ซึ่งคาดว่าจะปรับโครงสร้างเสร็จในไตรมาส 2/2567

สำหรับการดำเนินธุรกิจในอนาคต ภายหลังการปรับโครงสร้างการถือหุ้น บริษัทวางแผนจะดำเนินธุรกิจผ่าน 2 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจหลัก ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย โดยจะมีขนาดสินทรัพย์รวมกัน ไม่น้อยกว่า 75% ของสินทรัพย์รวมของ BKIH ประกอบด้วย 3 สายงานธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศไทย (Non-Life Insurance),ธุรกิจประกันภัยในต่างประเทศ (International Insurance), และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัย (Insurance Related),

กลุ่มธุรกิจอื่น ดำเนินธุรกิจนอกเหนือจากการประกันภัย โดยจะมีขนาดของสินทรัพย์รวมกัน ไม่เกิน 25% ของสินทรัพย์รวมของ BKIH ซึ่งบริษัทโฮลดิ้งส์จะพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการลงทุนในธุรกิจที่มีแนวโน้มจะส่งเสริมธุรกิจประกันภัย และ/หรือธุรกิจที่จะสร้างประโยชน์ให้แก่นักลงทุนและผู้บริโภค