#SINGER#ทันหุ้น - SINGER ปักธงปี 2567 ผลงานพลิกบวก ยอดขายโต-ไร้ตั้งสำรองก้อนโต พร้อมจ่อโปรดักส์ใหม่กลุ่มอีวี สยายปีกรับทรัพย์ พ่วงเคลียร์สต็อกสินค้าให้หมดในปีนี้ แถมจ่อเปิดแอปใหม่ช่วงQ2/2567 เพิ่มขีดความสามารถดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น

นายนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าปี 2567 ผลงานจะสามารถพลิกกลับมาเป็นบวก เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่ติดลบ เนื่องจากทิศทางยอดขายสินค้าปรับตัวดีขึ้น

*รุกกลุ่มสินค้าอีวี

ขณะเดียวยังมีแนวทางเร่งดำเนินการขายสินค้าคงคลัง(สต็อก) ที่เหลือยู่ ณ สิ้นไตรมาส4/2566 คิดเป็นมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท โดยวางเป้าหมายจะเคลียร์สต็อกดังกล่าวให้เสร็จสิ้นภายในปี 2567 เพื่อสร้างยอดขายและสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจเพิ่มเติม

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนนำเสนอสินค้าในกลุ่มอีวีเพิ่มเติม อาทิ จักรยานยนต์ (มอเตอร์ไซด์อีวี), จักรยานไฟฟ้า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเพิ่มเติม ตลอดจนสนับสนุนภาพรวมธุรกิจให้เติบโตตามที่วางไว้ โดยปีนี้บริษัทประมาณการยอดขายไว้ราว 1.5 พันล้านบาท เพื่อตอบรับสินค้าใหม่และการบริหารจัดการสินค้าในสต็อกเดิม

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันทางบริษัทอยู่ระหว่างการปรับปรุงเว็บไซด์ของบริษัทให้มีความทันสมัยมากขึ้น ซึ่งควบคู่ไปกับการพัฒนาแอปพิเคชันใหม่ภายใตั้ชื่อ "SG Capital" เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการนำเสนอสินค้าให้กับทีมขายของบริษัท ประกอบกับช่วยคัดกรองลูกค้าที่มีศักยภาพ และเพิ่มขีดความสามารถของการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น คาดได้เห็นความชัดเจนในไตรมาส2/2567

*สตอรี่เด่นเป้า 12.2บ.

ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์ให้คำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น SINGER ให้ราคาเป้าหมาย 12.20 บาท หลังทางผู้บริหารมองว่าปี 2567 ไม่น่าจะมีการตั้งสำรองก้อนใหญ่เหมือนในปี2566 อีก โดยตั้งแต่ไตรมาส 3/2566 เป็นต้นมาSINGER ก็มีเพียงการตั้งสำรองปกติ เท่านั้น

ทั้งนี้ จากยอดขายของ SINGER ที่ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีทั้งกับรายได้ในการขาย รวมไปถึงรายได้ดอกเบี้ย และการตั้งสำรองที่คาดว่าจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้คาดว่าปี 2567 ผลประกอบการของ SINGER จะพลิกกลับมาทำกำไรได้อีกครั้ง โดยทางฝ่ายวิเคราะห์คาดกำไรของ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ไว้ที่ 569 ล้านบาทในปี 2567

*เป้ารายได้โตเท่าตัว

ส่วนปี 2567 ทาง SINGER ตั้งเป้ารายได้จากการขายจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีก่อน โดยนอกจากการขาย Direct sale ที่จะมีการเพิ่มเจ้าหน้าที่ตัวแทนเพิ่มขึ้นแล้วSINGER จะใช้ช่องทางต่างๆ ในการเพิ่มยอดขายไม่ว่าจะเป็นTelesales ช่องทางออนไลน์ อีกทั้งในปีนี้SINGER จะใช้ช่องทางใหม่ที่ไม่เคยใช้มาก่อน คือการขายผ่านสาขาของJMART และ JMT ด้วย

ขณะที่ในปี 2566 ทางSINGER มีรายได้จากการขายเพียง 757 ล้านบาท ลดลงมากจากปี 2565 ที่มีรายได้จากการขาย 2.7 พันล้านบาท ซึ่งนอกเหนือจากกำลังซื้อที่ลดลงจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ยังเป็นเพราะทางSINGER ได้มีการปรับความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อ ซึ่งการปรับความเข้มงวดการพิจารณาสินเชื่อนี้จะทำให้รายได้จากการขายลดลงแล้ว พร้อมกันนี้ยังทำให้รายได้ดอกเบี้ยลดลงไปด้วย โดยลดลงจาก 2.3 พันล้านบาทในปี 2565 เหลือ 2.1 พันล้านบาทในปี 2566

ดังนั้น จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ในปี 2566 ที่ SINGER มีผลขาดทุนสูงถึง 3.2 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเพราะการตั้งสำรองเนื่องจากการตัดหนี้สูญกลุ่มลูกหนี้ด้อยคุณภาพของสัญญาเช่าซื้อที่บริษัทได้ติดตามทวงถามและพิจารณาแล้วว่า ลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ 

นอกจากนี้ยังได้มีการตั้งสำรองในลูกหนี้ที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างมี นัยสำคัญหลังจากมาตรการช่วยเหลือ COVID-19 หมดไป โดยมีการตั้งสำรองสูงถึง2.9 พันล้านบาท ในไตรมาส 2/2566 และมีการตั้งสำรองทั้งปี4.1 พันล้านบาท