#A5 #ทันหุ้น – A5 กางแผน 2 ปี เปิด 5 โครงการ มูลค่ารวม 8.2 พันล้านบาท บอสใหญ่ “ศุภโชค ปัญจทรัพย์” ตั้งเป้ารายได้ปี 2567 โต 70% อวดยอดรอโอนเต็มหน้าตัก 1.68 พันล้านบาท จ่อบุ๊กเข้าพอร์ต พร้อมเจาะฐานไฮเอนด์ ผุดบ้านซูเปอร์ลักซ์ชัวรีทำเงิน

นายศุภโชค  ปัญจทรัพย์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 เปิดเผยว่า บริษัทวางแผน 2 ปี (ปี 2567-2568) จะเปิดโครงการรวมทั้งหมด 5 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 8.2 พันล้านบาท และวางงบลงทุนสำหรับซื้อที่ดินไว้ที่ 2 พันล้านบาท หากแยกเป็นการเปิดโครงการในปี 2567 วนา ราชพฤกษ์-เวสต์วิลล์ มูลค่า 1.8 พันล้านบาท ในกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่วนครึ่งปีหลัง 2567 จะเปิดโครงการ แซงค์ รอยัล 2 อีกจำนวน 1 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการที่เปิดใหม่ในปี 2567 รวม 3.35 พันล้านบาท

** ผุดโครงการใหม่

ส่วนปี 2568 จะเปิดโครงการใหม่อีก 3 โครงการ มูลค่ารวม 4.85 พันล้านบาท บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2567 โต 70% ต่อจากปี 2566 โดยการเติบโตหลักๆ ปีนี้จะมาจากการรับรู้รายได้โครงการ แซงค์ รอยัล กรุงเทพกรีฑา ซึ่งบริษัทตั้งเป้าจะปิดโครงการ หรือขายโครงการ แซงค์ รอยัล กรุงเทพกรีฑาให้หมดภายในปีนี้ อีกทั้งโครงการใหม่ที่เปิดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คาดจะสนับสนุนรายได้ปี 2567 ให้เติบโตต่อเนื่อง

ปัจจุบันบริษัทมียอดรอโอนกรรมสิทธิ์ หรือ Backlog รวม 1.68 พันล้านบาท แบ่งเป็น Backlog โครงการในกรุงเทพฯ จำนวน 1.65 พันล้านบาท และต่างจังหวัด หรือที่อุดรธานี จำนวน 30 ล้านบาท คาดจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปี 2567 เกือบทั้งหมด อย่างไรก็ตามรายได้ของ A5 ในปี 2567 จะมาจากโครงการในกรุงเทพฯ ประมาณ 90%

บริษัทมองภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ปี 2567 ยังเป็นปีที่ท้าทาย เพราะยังมีปัจจัยที่ต้องติดตาม จากทิศทาง GDP ที่ธนาคารแห่งประเทศมองไว้ปีนี้ที่ -3.2% จากปีก่อน 1.9% แม้จะเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้น แต่ยังปัจจัยเรื่องเงินเฟ้อ หนี้ครัวเรือน และเรื่องดอกเบี้ยธนาคาร ปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค

อย่างไรก็ตามกลุ่มเป้าหมายของ A5 คือ Niche Market หรือตลาดเฉพาะกลุ่ม ประกอบกับ A5 ไม่ใช่บริษัทที่ลงเล่นในตลาดขนาดใหญ่ และไม่ต้องรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด หรือมาร์เก็ตแชร์ เพราะบริษัทเน้นการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นบ้านในระดับลักซ์ชัวรี และซูเปอร์ลักซ์ชัวรีเป็นหลัก

** ลูกค้าซื้อเงินสด

อีกทั้งลูกค้าของ A5 ไม่ใช้สินเชื่อทางการเงินสำหรับซื้อบ้าน แต่อาจจะกู้สินเชื่อบ้างแต่คิดเป็นสัดส่วนไม่มาก สำหรับแบรนด์ วนา เป็นบ้านระดับราคา 30-60 ล้านบาท สัดส่วนการกู้สินเชื่อจะอยู่ที่ 50:50 แต่ถ้าโครงการระดับบน หรือแบรนด์แซงค์ รอยัล ราคาบ้านจะอยู่ที่ 60-150 ล้านบาท ลูกค้าประมาณ 70-80% จะใช้เงินสดซื้ออสังหาริมทรัพย์ ประกอบกับปัจจุบันทิศทางดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง ทำให้ผู้ที่สนใจจะซื้อบ้าน อสังหาริมทรัพย์ตัดสินใจซื้อเงินสดมากกว่ายื่นเอกสารขอสินเชื่อ

สำหรับทิศทางธุรกิจไตรมาส 1/2567 แนวโน้มเติบโตดี บริษัทเดินหน้าตามแผนงาน ลุยเปิดโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี “วนา ราชพฤกษ์ - เวสต์วิลล์" บนพื้นที่โครงการประมาณ 17 ไร่ จำนวน 43 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 1,700 ล้านบาท เน้นกลยุทธ์ทำเลศักยภาพ ใจกลางราชพฤกษ์ ติด 2 ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ The Crystal SB ราชพฤกษ์ และ Central Westville ที่เพิ่งเปิดใหม่ปลายปีที่แล้ว ควบคู่กับกลยุทธ์การตลาดที่นำเสนอความแตกต่างที่โดดเด่นให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ สร้างยอดขายเติบโตต่อเนื่อง

อนึ่ง ผลประกอบการงวดปี 2566 มีรายได้รวม 1,495.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 664.03 ล้านบาท จำนวน 831.68 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 125% และมีกำไรสุทธิ 506.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 98.08 ล้านบาท จำนวน 408.35 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 416%

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=