#TIPH #ทันหุ้น TIPH ปี 2567 โตต่อ นำโดยธุรกิจแกนหลัก TIP ที่รับแรงหนุนจากการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐ และเอกชน รวมถึงท่องเที่ยว แจงเหตุไม่จ่ายปันผล เพราะรอบริษัทในเครือปันผลกลับเข้ามาในTIPH ก่อน ลำดับถัดไป ถึงจ่ายผู้ถือหุ้น ในรูปแบบปันผลระหว่างกาล

ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายเติบโตต่อเนื่องในปี 2567 โดยธุรกิจแกนหลักอย่าง TIP มองว่าจะเติบโตได้สูงกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยที่คาดว่าปี 2567 จะโต 5-6 %(ปี 2566 ภาพรวมอุตสาหกรรมประกันวินาศภัย มีเบี้ยรับรวมอยู่ที่ 285,028 ล้านบาท โต 3.5%)

“ที่ผ่านมาทิพยประกันภัย สามารถเติบโตได้สูงกว่าอุตสาหกรรมมาโดยตลอด ตลาดหลักของเรายังคงเน้นไปที่ประกันนอนมอเตอร์ เพราะเป็นตลาดที่เราเป็นผู้นำและมีความถนัด ซึ่งในปีนี้เราก็เห็นแนวโน้มของการเติบโตในประกันนอนมอเตอร์ต่อเนื่อง เป็นผลการการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งรวมถึงการลงทุนของภาคเอกชนหลังโควิด ทั้งในส่วนของสำนักงานออฟฟิศ โรงงาน หรือที่พักอาศัย เพื่อรองรับการเข้ามาของนักท่องเที่ยว”

*รัฐลงทุนหนุนประกันโต

ดร.สมพร กล่าวว่า จะเห็นว่าการก่อสร้างโครงการใหญ่ๆจากภาครัฐเริ่มมีการขยับตัวชัดเจน โดยคาดว่าปีนี้ มูลค่าการก่อสร้างของภาครัฐจะขยายตัว 1.7%ซึ่งภายใต้ พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายภาครัฐประจำปี 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท หากได้รับการอนุมัติ โครงการลงทุนต่างๆจะเกิดขึ้นซึ่งก็จะเป็นผลดีต่อธุรกิจประกันภัย ในการเข้าไปรับงาน

“ในส่วนของภาคเอกชน เราเห็นการก่อสร้างมีแนวโน้มเติบโตดีคาดว่าจะโต 3.1% จากปีก่อน ไม่ว่าจะโครงการที่อยู่อาศัยโรงงานอุตสาหกรรม อาคารสำนักงาน เพื่อรับการฟื้นตัว และกำลังซื้อที่กลับมา ซึ่งก็เป็นผลดีต่อธุรกิจประกันภัยการก่อสร้าง ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวไทยมากขึ้นในปีนี้ โดยคาดว่าจะเข้ามา 34 ล้านคน เพิ่มจากปีก่อน 18.8% ก็เป็นตัวสนับสนุนประกันเดินทาง และประกันอุบัติเหตุต่างๆ ให้เติบโตขึ้นเช่นกัน รวมถึงประกันภัยต่างๆที่เกี่ยวกับธุรกิจท่องเที่ยว และโรงแรเติบโตตามไปด้วย”

ดร.สมพร กล่าวต่อไปว่า ภาพรวมประกันภัยนอนมอเตอร์ในปี 2567 จึงยังคงเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ประกันรถยนต์ ก็ได้รับแรงหนุนจาก ยังได้รับแรงหนุนจากมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ระยะที่ 2 (EV3.5) ในช่วง 4 ปี (2567-2570) อย่างไรก็ตามในส่วนของประกันรถยนต์ บริษัทมีเป้าหมายรักษาสัดส่วนไว้ไม่เกิน 30%ของพอร์ตรับประกันภัยรวม ดังนั้นจึงไม่เน้นแข่งขันด้านราคา และระมัดระวังในการคัดงาน

*แจงเหตุงดปันผล

ทั้งนี้ ดร.สมพร ยังได้ชี้แจงว่า ในผลประกอบการปีที่ผ่านมา ในเรื่องของการงดจ่ายปันผลนั้น เพราะ TIPH ต้องรอเงินปันผลจาก บริษัทในกลุ่มธุรกิจจ่ายเข้ามาที่ TIPH ซึ่งเมื่อมีการจ่ายเข้ามาแล้ว TIPH จะทำการจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นต่อไป ในรูปแบบของปันผลระหว่างกาล และ TIPHยังมีแนวทางปรับโครงสร้าง เพื่อสร้างให้ TIPH สามารถสร้างรายได้ด้วยตัวเอง โดยจะดึงแผนกไอทีเทคโนโลยีที่เดิมอยู่ในบริษัท TIP ย้ายเข้ามาที่ TIPH โดยมีเป้าหมายให้บริการด้านไอทีเทคโนโลยีกับกลุ่มบริษัทลูก

สำหรับภาพรวมธุรกิจประกันภัย ปี 2566 เติบโต 3.6% ด้วยเบี้ยรับรวม 918,473 ล้านบาท ในส่วนนี้มาจากธุรกิจประกันชีวิต 633,445 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 96% และส่วนของธุรกิจประกันวินาศภัยอยู่ที่ 285,028 ล้านบาทม เติบโต 3.5% คิดเป็นสัดส่วน 31%ของเบี้ยรวมทั้งอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ธุรกิจประกันวินาศภัย ในส่วนของเบี้ยประกันภัยรถยนต์มีสัดส่วนสูงถึง 57% คิดเป็นเบี้ยอยู่ที่ 161,340 ล้านบาท และ เป็นประกันที่ไม่ใช่รถยนต์ (Non motor) สัดส่วน 43% โดยแยกเป็นเบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ด อยู่ที่ 59,574 ล้านบาท เบี้ยประกันสุขภาพ อยู่ที่ 17,457 ล้านบาท เบี้ยประกันอุบัติเหตุ (PA) อยู่ที่ 29,606 ล้านบาท เบี้ยประกันทางทะเลและขนส่ง อยู่ที่ 6,925 ล้านบาท และเบี้ยประกันอัคคีภัย อยู่ที่ 10,126 ล้านบาท

ในส่วนของ TIP ซึ่งเป็นบริษัทแกนของของ TIPH มีเบี้ยรับรวม 34,329 ล้านบาท โต 6.7% จากปีที่ผ่านมา คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 12% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ 11.7% โดยบริษัทยังความเป็นผู้นำตลาดประกันนอนมอเตอร์ต่อเนื่องเช่นเดิม ด้วยตัวเลขเบี้ยที่ 26,933 ล้านบาท เติบโต 8.1% คิดเป็นสัดส่วน 78.5% ของพอร์ตประกันรวม TIP ที่เหลือเป็นในส่วนของระกันรถยนต์