> SET > ICHI

02 เมษายน 2024 เวลา 09:49 น.

ICHI โบรกฯ คาดกำไรยังโตต่อ เข้าฤดูร้อนเป็นปัจจัยหนุน

#ICHI #ทันหุ้น-บล.เอเซีย พลัส หรือ ASPS ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI โดยแนะนำ “Outperform” เพราะ 1) คาดได้ผลบวกจากฤดูกาลที่ปีนี้ประเทศไทยได้เข้าสู่หน้าร้อนเร็วกว่าปกติ 2) คาดกำไรสุทธิปี 2567-2568 ยังโตดีเป็น 1.3 พันล้านบาท –1.4 พันล้านบาท หรือโตเฉลี่ย 13.0% และ 3) คาดหวังเงินปันผลปี 2567-2568 ที่จูงใจในอัตรา 5.8% -6.5% ตามลำดับ


ฝ่ายวิจัยประเมินกำไรปี 2567 ของ ICHI ที่ 1,254 ล้านบาท (+13.9% YoY) และเติบโตต่อเนื่องอีกในปี 2568 อีกเป็น 1,405 ล้านบาท (+12.0% YoY) โดยมีปัจจัยผลักดันดังนี้


1) คาดยอดขายในปี 2567 เติบโตสูงสูดต่อเนื่องเป็น 8,937 ล้านบาท (+11.0% YoY) และสูงขึ้นอีกในปี 2568 ราว 10.1% YoY เป็น 9,843 ล้านบาท จากสมมติฐานดังนี้


1.1) คาดยอดขายในประเทศ ในปี 2567 เติบโตเป็น 8,227 ล้านบาท(+11.5% YoY) (โดยเป็นส่วนของตันพาวเวอร์ 200 ล้านบาท) จากการบริหารพอร์ตสินค้าหลัก คือ อิชิตันกรีนที และเย็นเย็น ให้เติบโตและมีการเพิ่มกำลังการผลิตให้มากกว่าปี 2566 จาก 1,500 ล้านขวดต่อปี เป็น 1,700 ล้านขวดต่อปีเพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่มากขึ้นจากสภาวะเอลนีญโญที่อากาศร้อนรุนแรง และเติบโตต่อเนื่องเป็น 9,006 ล้านบาท (+9.5% YoY) ในปี 2568 เป็นส่วนของตันพาวเวอร์ 400 ล้านบาท(+100% YoY)


1.2) คาดยอดขายต่างประเทศ สูงขึ้นเป็น 710 ล้านบาท (+6.2% YoY)ในปี2567และคาดในปี 2568 เติบโตเป็น 837 ล้านบาท (+17.9% YoY)จากการหาช่องทางการเติบโตในประเทศอื่นๆเพิ่มเติม เช่น ฟิลิปปินส์ เกาหลี และเน้นยอดขายในกลุ่มประเทศหลักคือ กลุ่มCLMV ให้เพิ่มขึ้น 


2) อัตรากำไรขั้นต้นในปี 2567 และ2568 มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นจาก 23.4% ในปี 2566 เป็น 23.6% และ 23.7% ตามลำดับ จากเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตทำให้เกิดการประหยัดจากขนาดที่มากกว่าในอดีต และแผนในการลดความหนาของบรรจุภัณฑ์ซึ่งจะมีต้นทุนที่ต่ำลงจากการใช้พลาสติกลดลง


3) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย ในปี 2567 และ 2568 คาดลดลงจากเดิม 6.8% ในปี 2566 เหลือ 6.6% และ 6.5% ตามลำดับ จากการปรับงบประมาณการตลาดลดลง และการประหยัดต่อขนาดมากขึ้น


**ฐานะการเงินแกร่ง


สำหรับฐานะทางการเงินของ ICHI ถือว่ามีความแข็งแกร่งอย่างมาก โดย ณ สิ้นปี 2566 มีสินทรัพย์รวม 7.2 พันล้านบาท ซึ่งกว่า 49% ของสินทรัพย์รวม เป็นสินทรัพย์ถาวร(ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์) รองลงมาคือลูกหนี้การค้า เป็นสัดส่วน 20% โดยมีเงินสดในมือ 549 ล้านบาท ขณะที่มีหนี้สินเพียง 1.36 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่น 46% และ 19% ของหนี้สินรวม ตามลำดับ บริษัทมีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยเพียง 72 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้สินตามสัญญาเช่าและไม่มีการกู้ยืมเงินจากธนาคาร โดยในส่วนของทุนมีจำนวน 5.84 พันล้านบาท ทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E ratio) ต่ำเพียง 0.23 เท่า


ทั้งนี้คาดว่า ณ สิ้นปี 2567 และ 2568 D/E ratio ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็น 0.25และ 0.26 ตามลำดับ


**คาดปันผลราว 1.0-1.1 บาท


ICHI มีนโยบายการจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ โดยใน 3 ปี ที่ผ่านมา บริษัทมีการจ่ายเงินปันผลเกินกว่ากำไรสุทธิทุกปี เนื่องจากมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานสุทธิเป็นบวกมาโดยตลอด ซึ่งมีอัตรา payout ratio เฉลี่ยที่ 120%(119% ในปี 2564 122% ในปี 2565118% ในปี 2566)


สำหรับปี 2657 และ 2568 หากประเมินอย่างอนุรักษ์นิยมกว่า payout ratio ใช่วง3 ปีก่อน กำหนดให้มีการจ่ายเงินปันผลที่ 100% ของกำไรสุทธิ จึงคาดหวังเงินปันผลที่ 1.0 – 1.1 บาท ตามลำดับ หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากการจ่ายปันผลราว 5.8% -6.5% ตามลำดับ


รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X