นางมัลลิกา แก่กล้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี จำกัด หรือ DEXON ผู้ให้บริการตรวจสอบทางวิศวกรรม โครงสร้างพื้นฐาน และอุปกรณ์การผลิตในทุกอุตสาหกรรม โดยใช้เทคนิคในการตรวจสอบแบบไม่ทำลาย แบ่งเป็นการตรวจสอบโดยใช้เทคโนโลยีขั้นพื้นฐาน และการตรวจสอบโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เปิดเผยว่า สถานการณ์ธุรกิจของบริษัทกำลังอยู่ในช่วงของการเติบโต โดยเฉพาะโอกาสในการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์อเมริกาซึ่งเป็นรายใหญ่ในด้านความร่วมมือด้านเทคโนโลยีใหม่มีความคืบหน้าที่ดี
ขณะที่สถานการณ์งานในประเทศสหรัฐผ่านบริษัทย่อย Dexon Technology USA Inc. มีแนวโน้มที่ดี ปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นปีแรกในการดำเนินการมีรายได้ 20 ล้านบาท ถึงจุดคุ้มทนแล้ว เชื่อว่าปีนี้จะดีอย่างต่อเนื่อง ขณะที่บริษัทย่อยในยุโรป "เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี ยุโรป บีวี" นั้นคาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตของยอดขายไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท
ด้านธุรกิจในอเมริกาไต้ด้วยความผันผวนทางด้านการเมืองมีการเปลี่ยนรัฐบาลบ่อยจึงยังไม่ตัดสินใจในการเปิดกิจการจดทะเบียนจัดตั้ง อย่างไรก็ดี มีกลุ่มประเทศอาเจนตินา เอกวาดอร์ ซูรินาม ส่งออเดอร์เข้ามาให้กับบริษัทบ้างแล้ว
สำหรับกรณีที่ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เตรียมเปิดการคัดเลือกผู้ให้บริการตรวจสอบทางวิศวกรรมอุปกรณ์ผลิตโดยใช้เทคโนโลยีขั้นพื้นฐาน จากกรณีที่ผู้ให้บริการเดิมครบสัญญา ในแหล่งเอราวัณ (โครงการ G1) และ แหล่งบงกช (โครงการ G2) ปีนี้ ทางบริษัทสนใจที่จะเข้าร่วมประมูล ซึ่งหากได้งานเข้ามา จะมีมูลค่าสูงจากปัจจุบันที่บริษัทได้ให้บริการตรวจสอบโดยใช้เทคนิคขั้นสูงกับ ปตท.สผ. อยู่แล้ว โดยบริษัทยังคงใช้คุณภาพในการแข่งขันมากกว่าราคา
ทั้งนี้ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ที่ 704 ล้านบาท เติบโตราว 9% พร้อมตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้น 35-40% ในปัจจุบันบริษัทมีงานในมือที่อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อรอส่งมอบและรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 277 ล้านบาท โดยในส่วนของอัตรากำไรสุทธิจะสูงกว่าปี 2566 เนื่องจากค่าใช้จ่ายในส่วนของการลงทุนในสหรัฐ และยุโรป ลดลง หลังจากเปิดบริษัทแล้ว ขณะที่ปีนี้จะสามารถเก็บเก็บผลประโยชน์ได้มากขึ้น
โดยบริษัทยังเดินหน้าแผนจะขยายฐานธุรกิจไปสู่ตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกา ทวีปยุโรป รวมถึงอเมริกาใต้อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมี Global Footprint ใน 40 ประเทศ ในทวีปยุโรป เอเชีย โอเชียเนีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา อเมริกาเหนือ และลาตินอเมริกา
ทั้งนี้ตลาดของธุรกิจให้บริการด้านการตรวจสอบทางวิศวกรรมในประเทศไทย มีมูลค่าตลาดรวม 3,000 ล้านบาท โดยบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 11% โดยบริษัทตั้งเป้าหมายส่วนแบ่งตลาดให้เพิ่มขึ้นเป็น 12% ด้วยการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดผ่านการเน้นการนำเสนอโครงการจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ หรือ Turnkey Project ให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ด้วยการยกระดับการให้บริการให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น
ส่วนกรณีที่บริษัทโรงกลั่นขนาดใหญ่ในไทยจะมีการเดินกำลังการผลิตในโปรเจ็กต์ใหม่ในช่วงปีหน้านั้น บริษัทมีโอกาสที่จะเข้าไปตรวจสอบความเรียบร้อยของอุปกรณ์ท่อของส่งต่างๆ ก่อนที่จะดำเนินการผลิต ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ด้วยเช่นเดียวกัน
สำหรับผลประกอบการปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 648 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 6% จากในปี 2565 ที่มีรายได้รวม 610 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 50 ล้านบาท ลดลง 54 ล้านบาท หรือคิดเป็นลดลง 52% จากในปี 2565 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 104 ล้านบาท
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
X คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม