> SET > TASCO

18 เมษายน 2024 เวลา 12:53 น.

TASCO โบรกฯ คาดกำไร Q1/67 อ่อนแอ หั่นเป้าที่ 16.90 บ. แนะ “TRADING”

#ทันหุ้น - บล.หยวนต้า ส่องหุ้น TASCO คาดกำไรปกติ Q1/67 ที่ 121 ล้านบาท (-45% QoQ, -90% YoY) ลดลงทั้ง QoQ และ YoY และต่ำกว่าที่ฝ่ายวิจัยเคยประเมินไว้ก่อนหน้าที่ระดับ 300-350 ล้านบาท หลังถูกกดดันจาก 1) คาดรายได้รวมที่ 6,276 ล้านบาท ลดลง 8% QoQ และ 31% YoY ตามราคายางมะตอยที่ปรับตัวลงและปริมาณขายรวมที่คาดลดลงมาที่ระดับ 2.2 แสนตัน (-12% QoQ, -31% YoY) จากปริมาณ ความต้องการในประเทศ ที่ลดลงหลังงบประมาณประจำปี 2567 ยังไม่ได้รับการอนุมัติ และ 2) คาดอัตรากำไรขั้นต้นรวมที่ระดับ 6.9% จาก 9.1% ใน Q4/66 และ 19.0% ใน Q1/66 เนื่องจากคาดราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่เดือน ก.พ. 2567 ส่งผลให้บริษัทฯ ต้องมีการบันทึกรายการ Hedging Loss ราว 50 ล้านบาท (ใน Q4/66 และ Q1/66 บริษัทฯ มีการบันทึกรายการ Hedging Gain ที่ราว 40 ล้านบาท และ 142 ล้านบาท ตามลำดับ) 


ปรับกำไรปี 2567 ลงเพื่อสะท้อนอตัรากำไรขั้นต้นที่ยังไม่ฟื้นตัว หากกำไรปกติ Q1/67 ออกมาใกล้เคียงคาดจะคิดเป็นสัดส่วนเพียง 4% ของกำไรปี 2567 ฝ่ายวิจัยจึงมีการปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลง 8% เป็น 2,190 ล้านบาท (-10% YoY) จากการปรับสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี 2567 ลงเป็น 12.8% จากเดิม 13.5% เพื่อสะท้อนการฟื้นตัวของอัตรากำไรขั้นของธุรกิจ ยางมะตอยที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้ก่อนหน้า (ผลจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง)


กำไรมีแนวโน้มฟื้นตัวช่วงที่เหลือของปีหลังการอนุมัติงบประมาณฯ เบื้องต้นคาดกำไรปกติ Q2/67 ที่ราว 400-500 ล้านบาท ฟื้นตัวเด่น QoQ จากฐานที่ต่ำ หลังรัฐสภามีการอนุมัติงบประมาณฯ ในช่วงปลายเดือน มี.ค. 2567 ส่งผลให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทเริ่มเบิกจ่ายงบประมาณได้ตั้งแต่ช่วงกลาง พ.ค. 2567 เป็นต้นไปและทำให้ความต้องการใช้งานยางมะตอยในประเทศฟื้นตัว นอกจากนี้สัดส่วนรายได้จากการขายยางมะตอยในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนการฟื้นตัวของอัตรากำไรขั้นต้นเช่นกัน (ธุรกิจยางมะตอยในประเทศมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าต่างประเทศ) ขณะที่ YoY คาดกำไรปกติจะลดลงจากฐานที่สูงในปีก่อนหลังอัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มลดลงมาอยู่ที่ระดับ 9.0% +/- เทียบกับ 15.2% ใน Q2/66 และหากมองไปช่วง 2H67 คาดกำไรปกติจะสามารถเติบโตได้ทั้ง HoH และ YoY ใน 2H67 จากการเบิกจ่ายงบประมาณฯ ของหน่วยงานรัฐที่ทำได้เต็มไตรมาสตั้งแต่ช่วง Q3/67 รวมถึงปัจจัยฤดูกาลของธุรกิจในต่างประเทศ


ปรับราคาเหมาะสมลงเป็น 16.90 บาท/หุ้น...คงคำแนะนำ “TRADING” ผลจากการปรับประมาณการลงส่งผลให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ลดลงเป็น 16.90 บาท/หุ้น (อิง PER 12.0 เท่า) มี Upside เหลือเพียง 7.0% แม้ฝ่ายวิจัยมองว่าเงินปันผลที่ระดับ 1.10 บาท/หุ้น/ปี (Dividend Yield 7.0%) จะเป็นปัจจัยที่ช่วยจำกัด Downside ของราคาหุ้นได้ แต่ฝ่ายวิจัยมองว่าการฟื้นตัวของราคาหุ้นในระยะสั้น-กลางจะยังคงถูกจำกัดจากแนวโน้มงบ Q1/67 ที่ยังอ่อนแอและราคาน้ำมันดิบที่ยังมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง จึงคงคำแนะนำ “TRADING”



รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X