> Trendtalk > SCGP

09 พฤษภาคม 2024 เวลา 06:40 น.

เจาะ SCGP

#ทันหุ้น-ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 1,380 หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านที่ 1,370 ขึ้นไป ถ้าปรับตัวลดลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,370 จะมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1,355


สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ SCGP หรือ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจหลักในการให้บริการโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 สายธุรกิจหลัก คือ สายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร สายธุรกิจเยื่อและกระดาษ และสายธุรกิจรีไซเคิล


ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 67 มีกำไรสุทธิ 1,724 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.40 บาท เมื่อเทียบกับผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 66 ที่มีกำไรสุทธิ 1,220 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.28 บาท


SCGP ตั้งเป้ารายได้ปี 67 เติบโตแตะ 1.5 แสนล้านบาท จากปริมาณขายเพิ่มขึ้นตามดีมานด์ในตลาด และการปรับเพิ่มราคา วางงบลงทุน 1.5 หมื่นล้านบาท เน้นขยายกำลังการผลิต พร้อมเร่งปิดดีล M&P ที่เจรจาอยู่ 2-3 ราย แย้มไตรมาส 2/67 ผลงานดีต่อเนื่อง


นายดนัยเดช  เกตุสุวรรณ  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า ปี 67 คาดรายได้จะเติบโตเลขสองหลัก หรืออยู่ที่ 1.5 แสนล้านบาท จากธุรกิจที่มีอยู่เดิมมีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีปริมาณขายเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาขายเพิ่มขึ้นตามความต้องการที่สูงขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังรับรู้รายได้เต็มปี จากกลุ่มธุรกิจที่บริษัทเข้าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ (Merger and Partnership: M&P) ในช่วงปีที่ผ่านมาจำนวน 3 โครงการ และในปีนี้คาดว่าจะปิดดีล M&P เพิ่มเติมได้อีก จากปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจา 2-3 ราย


ในปีนี้บริษัทจัดสรรงบประมาณการลงทุน (CAPEX) ไว้ 15,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 10,000 ล้านบาท ใช้สำหรับขยายกำลังการผลิตโรงงานในไทยและต่างประเทศ รวมการเข้าไปลงทุน M&P ที่อยู่ระหว่างเจรจา และอีก 5,000 ล้านบาท ใช้สำหรับการบำรุงรักษา การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และอื่นๆ โดยในไตรมาส 1/67 บริษัทใช้งบลงทุนไปแล้ว 1,500 ล้านบาท นอกจากนี้ จะมีงบซื้อหุ้นเพิ่มใน PT Fajar Surya Wisesa Tbk. (Fajar) ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์ในอินโดนีเซีย คาดจะเห็นการใช้เงินส่วนนี้ในครึ่งปีหลัง


แนวโน้มปีนี้น่าจะใช้งบลงทุนเต็มจำนวน เพราะมีหลายดีลที่น่าสนใจ รวมทั้งการเข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มใน Fajar อีกก้อนหนึ่ง เรื่องการลงทุนคิดว่าปีนี้เดินหน้าได้ต่อเนื่องจากปีก่อน เน้นธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตสูง เช่น ธุรกิจวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ มีความเป็นไปได้ที่สัดส่วนปีก่อนที่ 2,700 ล้านบาท ปีนี้อาจเพิ่มอีก 500 ล้านบาท


ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/67 คาดยังเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แม้ว่าไทยและอินโดนีเซียจะมีวันหยุดมากในเดือนเม.ย. แต่พบว่าความต้องการผลิตภัณฑ์ยังคงเติบโตต่อเนื่อง และเชื่อว่าเดือนพ.ค.-มิ.ย. จะเพิ่มปริมาณขายต่อเนื่องแม้ต้นทุนราคาวัตถุดิบกระดาษรีไซเคิล (RPC) จะเพิ่มขึ้น แต่บริษัทสามารถปรับเพิ่มราคาขายผลิตภัณฑ์ได้

ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลงที่ 33.00 หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลงที่บริเวณ 27.00 ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 27.00 และ 25.00 แต่ถ้าทะลุผ่านแนวต้านที่ 34.00 ขึ้นไปได้ จะเป็นสัญญาณสิ้นสุดแนวโน้มขาลง



รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X